โบรกแนะ “ซื้อ” BCH เป้าใหม่ 26 บ. ลุ้นกำไรปีนี้ 1.8 พันลบ. รับสมาชิกประกันสังคมพุ่ง

โบรกแนะนำ “ซื้อ” BCH ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้น 13% เป็น 26 บาท ลุ้นกำไรปีนี้แตะ 1.8 พันล้านบาท รับสมาชิกประกันสังคมพุ่ง คาดกำไรปี 69 ทะลุ 2.2 พันล้านบาท


บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ประเมินเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH ว่า ฝ่ายวิเคราะห์ปรับกำไรปี 2567 ขึ้น 3% เป็น 1.8 พันล้านบาท และปี 2568 เพิ่มขึ้น 5% เป็น 2 พันล้านบาท หลังปรับอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 0.3% และ 0.9% เป็น 31.1% และ 31.6% ตามลำดับ และคาดการณ์กำไรปี 2569 ที่ 2.2 พันล้านบาท

โดยรายได้จากผู้ป่วยเงินสด ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่า และเพิ่มขึ้น 10% ต่อปี ส่วนหนึ่งมาจากการปรับราคาขึ้นหลังการปรับปรุงโรงพยาบาล โดยจะเพิ่มขึ้นจาก 67% ของรายได้ในปี 2566 เป็น 69%-71% ในปี 2567-2569 ซึ่งมาจาก 1) รายได้ของผู้ป่วยชาวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ในปีนี้ (ตามเป้าหมายของ BCH) สนับสนุนจากตลาดใหม่อย่าง ซาอุดีอาระเบีย และลิเบีย

รวมทั้งการเติบโตในตลาด CLMV ซึ่งจะชดเชยรายได้ที่ลดลงจากคูเวต (คิดเป็น 4% ของรายได้) หลังจากที่รัฐบาลระงับการส่งผู้ป่วยมายังประเทศไทยชั่วคราว 2) โรคระบาดตามฤดูกาลเพิ่มขึ้น (Fig. 6) 3) Cancer Center จะเปิดให้บริการในไตรมาส 3/2566 ซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุน 60-70 ล้านบาทต่อปี ในค่าส่งต่อและจำนวนการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น และ 4) โครงการตรวจสุขภาพให้กรมตำรวจและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

โดยคาดการณ์รายได้จากประกันสังคม (SSO) จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4% ต่อปี สนับสนุนจากการลงทะเบียนเพิ่มขึ้น 3% ต่อปีเป็น 1.1 ล้านคนภายในปี 2569, รายได้เหมาจ่ายคงที่เพิ่มขึ้น 1,808 บาท/คน/ปี จากเดิม 1,640 บาท, โปรแกรม 515 จะเป็นโปรแกรมถาวร และรายได้จากโครงการสิทธิพิเศษด้านการรักษาพยาบาลที่ปรับเพิ่มขึ้น (Fig. 16) เช่น การทดสอบการนอนหลับ (6,000-7,000 บาท/ครั้ง โดยมีรายชื่อรอประมาณ 500 ราย ในการรอการตรวจ) และคาดการณ์ว่าโรงพยาบาลใหม่ 3 แห่งจะมีผลการดำเนินงานดีขึ้น

ทั้งนี้ ในปี 2566 BCH บันทึกรายได้ลดลง 10 ล้านบาท โดยเงินชดเชยน้อยลงในเดือนธันวาคม 2565 หลังจากที่มีการปรับค่าน้ำหนักสัมพัทธ์กลุ่มวินิจฉัยโรคร่วมด้วยเกณฑ์วันนอน (AdjRW) ลดจาก 12,000 บาทเป็น 10,000 บาท เนื่องจากงบประมาณไม่เพียงพอ โดยคาดการณ์งบประมาณของ SSO อยู่ที่ 10.1 พันล้านบาท ในปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามจำนวนสมาชิก SSO ที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตามฝ่ายวิเคราะห์เชื่อว่า BCH จะได้รับผลกระทบน้อย เนื่องจากโรงพยาบาล มีความสามารถในการรักษาโรคซับซ้อน อาทิ โรคหัวใจ, มะเร็ง และ โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น และความเสี่ยงปรับลดรายได้ไม่เกิน 20 ล้านบาท สำหรับลูกหนี้ค้างรับเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2566 ทั้งนี้ แนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเป้าหมายขึ้น 13% เป็น 26 บาท

Back to top button