SC:คาดกำไรหลัก 4Q/58 ออกมาดีแนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 3.51 บาท
SCคาดการณ์กำไรหลักไตรมาส 4/58ออกมาดีสุดในรอบปี ส่วนกำไรหลักปี 58 เพิ่ม 10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน แนะนำ ซื้อ เห็นว่าหุ้นปรับลงมากไป ทั้งที่ทำกำไรสูงสุดใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง P/E ปี 59 ซื้อขายที่เพียง 6.5 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยกลุ่ม 8.2 เท่า และ P/BV ปี 59 เพียง 0.85 เท่า แต่อัตราผลตอบแทนปันผลกลับสูงปี 59 เป็น 6.1%
บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (14 ม.ค.) ว่า บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC บริษัทแนะว่ารายได้ปี 58 ทะลุเป้า คือมากกว่า 13.9 พันล้านบาท โดยในช่วงปลายปีที่ผ่านมาสามารถปิดการขายได้ 2 โครงการพร้อมกัน รวมมูลค่าขาย 4 พันล้านบาท คือ กรานาดา ปิ่นเกล้า และแกรนด์บางกอก บูเลอร์วาร์ด ปิ่นเกล้า-เพชรเกษม โดยในปี 58 ที่ผ่านมายังคงสถานะความเป็นผู้นำตลาดบ้านระดับราคาสูงที่มากกว่า 15 ล้านบาทขึ้นไป ทั้งนี้รายได้ที่ระดับนี้ ถือว่าเพิ่มขึ้นในระดับที่ดีคือ 10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและเป็นไปตามที่เราประมาณการไว้
แม้ยอดขาย (Presales) ต่ำเป้า แต่เติบโตสูงเทียบ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนบริษัทสามารถทำยอดขายปี 58 ได้ที่ 12.5 พันล้านบาท ตรงกับที่เราคาดไว้ และถือว่าต่ำกว่าเป้าขายที่ 13 พันล้านบาท แบ่งยอดขายเป็นแนวราบ 65% และแนวสูงหรือคอนโด 35% อย่างไรก็ตามยอดขายปี 58 ถือว่าสูงกว่าปี 57 ที่ 8.5 พันล้านบาทอยู่ถึง 47% สืบเนื่องจากปี 58 เปิดขายโครงการใหม่มากขึ้น ส่วนกรณีที่ยอดขายต่ำกว่าเป้าก็ถือว่าสอดคล้องกับอุตสาหกรรมที่ส่วนใหญ่ทำได้ต่ำกว่าเป้า ตามภาวะเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวลง โดยเฉพาะปัจจัยเรื่องกำลังซื้อที่อ่อนลง และการมีหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับที่สูง
คาดการณ์กำไรหลักไตรมาส 4/58ออกมาดี เป็น 569 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 39% เทียบไตรมาสก่อนหน้า ถือว่าเป็นไตรมาสที่มีกำไรสูงสุดในรอบปี และมีสัดส่วนกำไรถึง 35% เทียบกับประมาณการกำไรทั้งหมดในงวดปี 58 อย่างไรก็ตามหากเทียบกับ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนคาดว่าจะอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว ซึ่งฐานเปรียบเทียบคือ ไตรมาส 4/57 อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก (High Base Effect) โดยคาดว่ารายได้จากการโอนไตรมาส 4/58 สูงเป็น 4.7 พันล้านบาท คอนโดหลักที่ให้รายได้คือ Centric Sea พัทยา อย่างไรก็ตามกำไรไตรมาส 4/58อาจมีส่วนเพิ่มได้อีก (upside risk) หากบริษัททำอัตรากำไรขั้นต้นไตรมาส 4/58ได้ดีกว่าที่เราคาดไว้ ส่วนกำไรหลักปี 58 คาดไว้ว่าเพิ่ม 10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 1.64 พันล้านบาท
ยอด Backlog ไปรับรู้ปี 59 อยู่ในเกณฑ์สูง สิ้น 3Q58 ทั้งหมดเป็น 8.7 พันล้านบาท ซึ่งสามารถรับรู้รายได้ในปี 59 ได้ 4.3 พันล้านบาท และเมื่อรวมรายได้ค่าเช่าต่อปีจะเป็นสัดส่วน 33% เทียบกับประมาณการรายได้ปี 59 แล้ว แต่ปี 60 จะมี Backlog เหลือไม่มากที่ 1 พันล้านบาท ทางบริษัทจึงต้องเร่งขายแนวราบ หรือพัฒนาคอนโดที่ไม่สูงเพื่อรับรู้รายได้ทันในงวดปี 60
คงคำแนะนำ ซื้อ เราเห็นว่าราคาหุ้นปรับลงมากไป ทั้งที่ทำกำไรสูงสุดใหม่ได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ในอดีตจนถึง 2 ปีข้างหน้า สำหรับ P/E ปี 59 ซื้อขายที่เพียง 6.5 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยกลุ่ม 8.2 เท่า และ P/BV ปี 59 เพียง 0.85 เท่า แต่อัตราผลตอบแทนปันผลกลับสูงปี 58 และ 59 เป็น 5.4% และ 6.1% ตามลำดับ ข้อดีคือ มีสต็อคที่เข้าเกณฑ์มาตรการกระตุ้นจากภาครัฐในการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง 8.2 พันล้านบาท แต่ที่เข้าเกณฑ์บ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทที่ได้ลดหย่อนภาษีมีน้อย ประมาณ 5% ของพอร์ต เนื่องจากบริษัทเน้นจำหน่ายบ้านราคาสูง สำหรับข้อเสียคือ อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนสูง 3Q59 เป็น 1.2 เท่า ซึ่งเป็นไปตามการที่บริษัทอยู่ในช่วงขยายตัว