CRC ลุ้นฟื้นตัวครึ่งปีหลัง! รับนโยบายรัฐเอื้อประโยชน์ โบรกแนะ “ทยอยสะสม” เป้า 37 บาท

CRC ลุ้นฟื้นตัวครึ่งปีหลัง เป็นบริษัทในกลุ่มค้าปลีกอุปโภคบริโภค ซึ่งได้ประโยชน์จากมาตรการรัฐ โบรกเกอร์แนะนำ “ทยอยสะสม” ประเมินราคาเหมาะสมปี 2567 ที่ 37 บาทต่อหุ้น


บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ โดยเริ่มต้นคำแนะนำ “ทยอยสะสม” บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ประเมินราคาเหมาะสม ปี 2567 ที่ 37 บาทต่อหุ้น ด้วยปัจจัยหนุนจาก 1) การกลับมาของนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับธุรกิจโดยรวม 2) นโยบายภาครัฐจากงบประมาณภาครัฐและมาตรการภาครัฐต่างๆ ช่วยเพิ่มกำลังซื้อโดยเฉพาะในธุรกิจฮาร์ไลน์ รวมถึงโครงการ Digitalwallet ช่วยเพิ่มเม็ดเงินในตลาด 3) แผนการสร้างยอดขาย เช่นการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ เริ่มเห็นผล เช่นการขยายธุรกิจไปยัง Go Wholesale ที่คาดได้รับผลตอบรับดี และมีแผนการขยายการลงทุนอื่นๆ เพื่อช่วยสร้างรายได้และกำไร

สำหรับ CRC มีธุรกิจที่ครบวงจร ทั้งจากธุรกิจแฟชั่นเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกาย และเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกในห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล โรบินสัน รีนาเซนเต (ประเทศอิตาลี) ธุรกิจฟู้ด จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าทั่วไป ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและส่งเช่น ท๊อป ท็อปส์ ฟูด ท็อปส์เดีลี่ ธุรกิจฮาร์ดไลน์ จำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงที่อยู่อาศัย อิเลคทรอนิกส์ เช่น ไทวัสดุ บีเอ็นบี เพาเวอร์บาย บีทูเอส เหงียน คิม (ประเทศเวียดนาม)

รวมถึง ธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ เป็นธุรกิจให้เช่าพื้นที่สำหรับลูกค้าและร้านค้าภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ GO ซึ่งธุรกิจของ CRC สามารถรองรับกลุ่มลูกค้าได้ครบวงจร ขณะเดียวกันมีแผนเชิงรุกไปยังช่องทางอื่นเพิ่มเพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้า เช่นการเข้าสู่ตลาดสินค้าอาหารสด ในรูปแบบ GO Wholesale ซึ่งเจาะกลุ่มลูกค้าทั้ง B2C และB2B โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า HoReCa

ทั้งนี้ CRC เป็น 1 ในกลุ่มค้าปลีกอุปโภคบริโภค ซึ่งได้ประโยชน์จากมาตรการรัฐ 1) มาตรการกระตุ้นการกลับมาของนักท่องเที่ยว เช่น Free Visa ซึ่งขยายจากประเทศจีน รวมถึงการจัดกิจกรรมตามประเพณีในแต่ละจังหวัด จำนวนนักท่องเที่ยวยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากตัวเลขของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จาก ม.ค.- เม.ย 2567 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทย จำนวน 12.1 ล้านคน เติบโต 39% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน คาดจำนวนนักท่องเที่ยวจะมีปริมาณที่มากขึ้น ในช่วงครึ่งหลังของปี 2567

2) มาตรการ Easy-E Receipt ในช่วงต้นปีค่อนข้างได้รับการตอบรับดี ทางภาครัฐอยู่ระหว่างการพิจารณาใช้มาตรการดังกล่าวต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ 3) การอนุมัติงบประมาณรายจ่ายปี 2567 และต่อเนื่องไปปี 2568 และ 4) โครงการ Digital wallet ที่คาดจะเริ่มใช้ได้ในไตรมาส 4/67 ซึ่งคาดจะเป็นประโยชน์ ต่อทุกธุรกิจของ CRC ทั้งนี้หากเป็นไปตามคาดจะเห็นการฟื้นตัวของการจับจ่ายใช้สอยและกำลังซื้อที่เพิ่มมากขึ้นตามเม็ดเงินในตลาด

Back to top button