SAPPE โบรกหั่นกำไรปี 67 เหลือ 1.3 พันล. พ่วงเป้า 92 บาท เซ่นออเดอร์สินค้าอ่อนแอ

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(20  ส.ค.67) ว่า บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE บริษัทมีมุมมองเชิงลบเกี่ยวกับการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันที่ (19 ส.ค.67) โดยผู้บริหารระบุว่า รายได้ไตรมาส 3/67 จะลดลงจากไตรมาส 2/67 และไตรมาส 1/67 สวนปัจจัยด้านฤดูกาลซึ่งปกติจะเป็น High season ของธุรกิจ ในขณะที่คาดว่ารายได้ไตรมาส 4/67 จะอ่อนตัวต่อเนื่องเนื่องจากเป็น Low season ดังนั้นผู้บริหารจึงปรับลดเป้าการเติบโตของรายได้ปี 2567 ลงเป็น 15-20% จากเป้าก่อนหน้าที่ 20-25% (ครึ่งปีแรกเติบ 21%) ซึ่งหมายความว่าครึ่งหลังปี 2567 น่าจะโตลดลงเป็น 10-15% นอกจากนี้ยังเชื่อด้วยว่ากำไรไตรมาส 2/67 อาจสูงที่สุดในปีนี้

สำหรับเหตุผลที่ทำให้บริษัทฯลดเป้ารายได้เกิดจากคำสั่งซื้อล่วงหน้าสำหรับไตรมาส 3/67 ซึ่งอาจเพิ่มน้อยกว่าคาดใน 3 ตลาดสำคัญ ตะวันออกกลางซึ่งมีผลการดำเนินงานที่ดีมากในช่วงครึ่งแรกปี 2567 จากการเพิ่มสินค้าคงคลังเพื่อขยายตลาดกำลังประสบปัญหาสงครามที่ยึดเยื้ออยู่ในปัจจุบัน ส่วนอินโดนีเซียมีปัญหาจากฐานที่อยู่ในระดับสูง และอำนาจในการซื้อที่อ่อนแอในขณะที่เกาหลีใต้กำลังประสบปัญหาการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ดีตลาดอื่น ๆ อาทิเช่น สหภาพยุโรปสหรัฐฯ และอินเดียยังโตต่อเนื่อง โดยคาดว่าอัตรากำไรขั้นตันในช่วงครึ่งหลังปี 2567 จะลดลงจากครึ่งแรกปี 2567 จากรายได้ที่ลดลงและการแข็งตัวของค่าเงินบาท ในขณะเดียวกันบริษัทฯเริ่มรับรู้ค่าใช้จ่ายการตลาดหลังจ้าง SEVENTEEN เป็น Presenter โดยจะเริ่มรับรู้ในไตรมา ส 2/67 และต่อเนื่องไปอีก 3 ไตรมาส

ทั้งนี้ได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ของเราลง 8% เป็น 1.3 พันล้านบาท โต 21% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่ากำไรสุทธิปี 2568-2569 จะโต 10-11% จากสมมติฐานที่ Conservative ผู้บริหารคงเป้าระยะยาวสำหรับในปี 2569ไว้ที่ 10พันลบ. (คิดเป็นการเติบโตไม่น้อยกว่า 20% CAGR) และเดินหน้าขยายกำลังการผลิตตามที่ได้วางแผนไว้ ปัจจุบันบริษัทฯ กำลังก่อสร้างโรงงานใหม่โดยดาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มเดินสายการผลิตได้ในไตรมาส 2/68 (ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่ม 25%) ด้วยเงินลงทุน 1.63 พันล้านบาท

ขณะเดียวกันได้ปรับลดราดาเป้าหมายปี 67 เป็น 92 จาก 115 บาทโดยปรับลดด่า P/E เป็น 22 เท่า (จาก 25k) ที่ราคาเป้าหมายใหม่หุ้นนี้ Upside 20% นอกจากนี้คาดกำไรจะโตต่อเนื่องในปี 68-69 ดังนั้นยังคงแนะนำซื้อ อย่างไรก็ดีหุ้นขาดปัจจัยหนุนในระยะสั้นโดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากแนวโน้มกำไรที่ไม่สดใสในช่วงครึ่งปีหลัง 2567