TU:กูรูส่องกำไรไตรมาส 4/58 ไม่แจ่มเหตุมีค่าใช้จ่ายหลังล้มดีล Bumble Bee
TU คาดจะรายงานกำไรสุทธิ 958 ล้านบาทใน ไตรมาส 4/58 (+37%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน -41%เทียบไตรมาสก่อนหน้า) และกำไรปกติ 1313 ล้านบาท (+39%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน -22%เทียบไตรมาสก่อนหน้า) คาดบันทึกค่าใช้จ่ายจากการปิดดีล Bumble Bee แต่ราคาทูน่าที่อ่อนตัวในปัจจุบันยังคงผลสุทธิเป็นบวกต่อมาร์จิ้นทูน่า
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (28 ม.ค.) ว่า บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU มีมุมมองเป็นบวกจากการทำ Preview และแนะนำทยอยสะสม TU (TP 20.30 บาท) หรือรอซื้อหลังประกาศงบ 23 ก.พ. คาดกำไรสุทธิ 958 ล้านบาทในไตรมาส 4/58 ซึ่งยังเพิ่มขึ้น เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ถึงแม้จะคาดบันทึกค่าใช้จ่ายจากการปิดดีล Bumble Bee แต่ราคาทูน่าที่อ่อนตัวในปัจจุบันยังคงผลสุทธิเป็นบวกต่อมาร์จิ้นทูน่าของ TU
คาดกำไรสุทธิปี 59 เติบโต 20% และยังไม่รวม M&A ใหม่ๆ ซึ่งถ้ามองจากเป้าหมายยอดขายของ TU คาดว่าจะมีอีก 1-2 ดีลในปี 59 ราคาหุ้นในปัจจุบันสะท้อนข่าวลบไปเกือบหมดแล้ว คาดวันที่ 23 ก.พ. TU จะรายงานกำไรสุทธิ 958 ล้านบาทใน ไตรมาส 4/58 (+37%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน -41%เทียบไตรมาสก่อนหน้า) และกำไรปกติ 1313 ล้านบาท (+39%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน -22%เทียบไตรมาสก่อนหน้า)
คาดกำไร FX 145 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายพิเศษ 500 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่าย 200 ล้านบาทจากการยกเลิกเพิ่มทุนและเงินกู้หลังล้มดีล Bumble Bee และการบันทึกด้อยค่ากองเรือ 300 ล้านบาท ส่วนการดำเนินงานกำไรปกติเพิ่มขึ้น เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะ GPM ดีขึ้นจากราคาทูน่าที่ลดลงและ product mix ดีขึ้น ส่วนกำไรปกติลดลง เทียบไตรมาสก่อนหน้า ตามฤดูกาลที่ส่งออกทูน่า กุ้ง ลดลง และมูลค่าเพิ่มสินค้าลดลง