โบรกแนะ “ซื้อ” KTB อัพเป้าใหม่ 24 บาท ชูรายได้ค่าฟีโต-ปันผลสูง
จังหวะสอย KTB เป้าใหม่ 24 บาท โบรกมองกำไรไตรมาส 3 แตะ 1 หมื่นล้าน รับรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของสินเชื่อ ลุ้นจ่ายปันผลเพิ่ม คาดยีลด์สูง 4.8%-5.3% ในปี 67-69
บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ PI ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (27 ก.ย.67) แนะนำ “ซื้อ” หุ้น ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ราคาเป้าหมาย 24 บาท คาดการณ์กำไรสุทธิในไตรมาส 3/67 เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า
ทั้งนี้ คาดการณ์กำไรสุทธิในไตรมาส 3/67 ที่ 1.05 หมื่นล้านบาท (โต 2.2% จากปีก่อน, ลดลง 6.1% จากไตรมาสก่อน โดยกำไรที่ขยายตัวจากปีก่อนเนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น และรายได้ค่าธรรมเนียมปรับสูงขึ้นอานิสงส์จากการฟื้นตัวของภาวะการลงทุน และสินเชื่อขยายตัว
อย่างไรก็ดี คาดการณ์ว่ากำไรจะลดลงจากไตรมาสก่อน เนื่องจากค่าใช้จ่ายการดำเนินงานปรับสูงขึ้น ซึ่งเป็นปกติที่ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 67 เศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวเปาะบาง และความระมัดระวังในการขยายสินเชื่อใหม่ทำให้การเติบโตของสินเชื่อเป็นไปอย่างช้าๆ
โดยคาดการณ์ว่าสินเชื่อในไตรมาส 3/67 จะปรับสูงขึ้นราว 0.5% จากไตรมาสก่อนหน้า (สินเชื่อเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 0.4% เทียบกับเดือน มิ.ย.) อย่างไรก็ดี สินเชื่อในช่วง 9 เดือนแรกของปี 67 แค่ทรงตัวนับจากต้นปีจนถึงปัจจุบัน จากที่ในช่วงไตรมาส 2/67 สินเชื่อหดตัวจากการชำระคืนหนี้ของสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อภาครัฐ แต่ด้วยปัจจัยฤดูกาลที่มีการใช้จ่ายสูงขึ้นทำให้คาดการณ์ว่าสินเชื่อในไตรมาส 4/67 จะเร่งตัวเพิ่มขึ้น และสินเชื่อในปี 67 จะเติบโต 1.5% จากปีก่อน
สำหรับจุดแข็งของ KTB คือการควบคุมคุณภาพสินเชื่อที่ดี ดังนั้น คาดการณ์ว่า NPL ratio จะปรับขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาก่อน ที่ 3.2% ยังอยู่ในกรอบเป้าหมาย <3.25%ในปี 67 และ Coverage ratio เเข็งแกร่งที่ 180.9% ภาระสำรองหนี้ฯ ลดลงลดทอนผลกระทบจาก NIM อ่อนตัว
ด้าน NIM คาดการณ์ว่าจะลดลงราว 10 bps เหลือ 3.26% ในปี 68-69 จากราว 3.36% ในปี 67 แต่ด้วยการควบคุมคุณภาพสินเชื่อที่ดี ทำให้ KTB ผ่อนคลายสำรองหนี้ฯ ลงได้ กอปรกับรายได้ค่าธรรมเนียมที่เติบโตช่วยลดทอนผลกระทบจาก NIM ที่ลดลง คาดการณ์ว่าทำไรสุทธิในปี 68-69 จะขยายตัวต่อเนื่อง แต่ในอัตราชะลอตัวที่ 4.6%/5.9% ในปี 68-69 จากที่คาดจะโต 14.4% ในปี 67 ทำให้คาดการณ์ว่า KTB จะจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นตามผลประกอบการ คิดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงที่ 4.8%-5.3% ในปี 67-69
โดยคงคำแนะนำ “ซื้อ” จากปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง และปรับมูลค่าพื้นฐานเป็น 24 บาท จาก 20 บาท จากการ Roll over เป็นปี 68 ประเมินด้วยวิธี GGM (ROE 9.8%, Terminal growth 2%) อิง PBV ปี 67 ที่ 0.73 เท่า หรือ -0.25SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปี