MTC ลุ้นครึ่งปีหลังสดใส! รับขยายสินเชื่อ-รายได้ค่านายหน้าพุ่ง โบรกชูเป้า 54 บาท
MTC โบรกชี้กำไรครึ่งปีหลังโตต่อ จากการขยายตัวสินเชื่อจำนำจดทะเบียน และรายได้ค่านายหน้าประกันเติบโต หนุนกำไรปี 67 อยู่ที่ 5.86 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.30% โดยราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์อยู่ที่ 54 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (1 ต.ค.67) ว่าแนวโน้มผลประกอบการครึ่งหลังของปี 67 ของ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC คาดหวังการขยายตัวเมื่อเทียบกับครึ่งปีก่อน และเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนจากการขยายตัวของสินเชื่อจำนำจดทะเบียน รายได้ค่านายหน้าประกันเติบโต และแนวโน้มการตั้งสำรองผ่าน credit cost ที่ลดลงตามคุณภาพลูกหนี้ที่ดีขึ้น หลังสิ้นงวดครึ่งแรกของปี 67 รายงานกำไรสุทธิที่ 2.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
โดยมียอดสินเชื่อคงค้าง 154 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนตามการขยายสาขา โดยตั้งเป้าทั้งปีอยู่ที่ 8,140 สาขาจากปัจจุบันที่ 7,980 สาขา ครอบคลุมทั่วพื้นที่ในประเทศ และภายในปี 69 ตั้งเป้าการขยายสาขาอยู่ที่ 9,000 สาขา ส่วนการเติบโตของสินเชื่อตั้งเป้าเฉลี่ย 20% ต่อปี ตลอดในช่วงปี 67-69 สำหรับคุณภาพสินเชื่อ มี NPLs ratio ที่ 2.88% ลดจากปี 66 ที่ 3.67% และมี NPLs coverage ratio เพิ่มขึ้นเป็น 125% จากสิ้นปี 66 ที่ 116%
ด้าน Bloomberg ประเมินผลประกอบการในไตรมาส 3/67 คาดการณ์ว่าจะขยายตัวจากไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนราว 15 พันล้านบาท และคาดการณ์กำไรสุทธิปี 67 อยู่ที่ 5.86 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.30% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และคาดการณ์กำไรสุทธิปี 68 อยู่ที่ 7.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.80% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีราคาเป้าหมายที่ 51.41 บาท แม้ upside ในเชิงปัจจัยพื้นฐานเริ่มจำกัด แต่ในเชิงกลยุทธ์ ยังมี sentiment เชิงบวกในระยะถัดไปจาก 1. การพิจารณาปรับขึ้นค่าแรงขั้นขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ ในช่วงปลายปีนี้ และแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว
2.ตลาดรับรู้ประเด็นการออกหุ้นกู้สกุลต่างประเทศ เพื่อ rollover หุ้นกู้ที่ครบกำหนด และขยายธุรกิจ ซึ่งกระทบต่อค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยไปพอสมควรแล้ว และประเมินว่าในปี 68 คาดการณ์ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง และการจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินของ S&P Global Ratings อยู่ที่ BB- และ Fitch Rating A- ช่วยลดแรงกดดันด้าน Cost of fund ในปีหน้าลงรวมถึง 3. แนวโน้มเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้อีก 0.5%
ทั้งนี้ ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์อยู่ที่ 54.00 บาท