CPAXT ลุ้นกำไรปี 67 แตะหมื่นล้าน รับยอดขายพุ่ง-นโยบายรัฐหนุน โบรกชูเป้า 36.80 บาท
CPAXT โบรกชี้กำไรปี 67 แตะ 1.06 หมื่นล้านบาท โต 20% รับนักท่องเที่ยว หนุนยอดขายพุ่ง รวมถึงนโยบายรัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ โบรกชูเป้า 36.80 บาท
บล.เอเอสแอล จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวโน้มไตรมาส 3/67 ของ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT คาดการณ์ผลประกอบการจะชะลอตัวเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า จากการรับรู้ One-time expense ตามการปรับโครงสร้างของธุรกิจที่มีการควบรวมระหว่าง CPAXT (ธุรกิจค้าส่ง) และ Ek-Chai (ธุรกิจค้าปลีก CPAXT รวมถึงการรับรู้ผลขาดทุนทางบัญชีจากการ Mark-to-market ของสัญญาอนุพันธ์อัตราแลกเปลี่ยน แต่ถ้าไม่นับรายการดังกล่าวคาดว่าจะยังขยายตัวจากไตรมาสก่อนหน้า แม้ว่ารายได้ขายจะชะลอตัวลงตามปัจจัยฤดูกาล แต่ได้ปัจจัยหนุนจากอัตรากำไรขันต้นต้นเฉลี่ยที่สูงขึ้นเตะเหนือระดับ 16% ของธุรกิจค้าส่งเป็นหลักโดยเฉพาะกลุ่มอาหารสด
ส่วนภาพรวมเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน คาดการณ์ว่าจะขยายตัวได้มากกว่า 10% ตามการเติบโตของยอดขายทั้งสาขาเดิมและสาขาใหม่ ที่ได้เปิดสาขา MAKRO ในงวดอีก 3 สาขา ส่วนด้าน SG&A ต่อรายได้มีแนวโน้มลดลงต่ำกว่าปีก่อนที่ 13.7% ตามการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มากกว่าค่าใช้จ่ายรวม
ทั้งนี่ Bloomberg ประเมินกำไรสุทธิสำหรับปี 67 เท่ากับ 1.06 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ทำนิวไฮ โดยโมเมนตัมของผลประกอบการ (core profit) จะขยายตัวต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี และจะทำสูงสุดในไตรมาส 4/67 ตามฤดูกาลท่องเที่ยว และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ทำให้ลูกค้ากลุ่ม HoReCa สั่งชื่อสินค้ามากขึ้น
รวมถึงได้อานิสงส์จากการบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ นอกจากนี้ในระยะถัดไป คาดหวังการเกิด synergy หลังการควบรวมกันมากขึ้น
ส่วนแนวโน้มปี 68 อยู่ที่ 12 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีราคาเป้าหมายที่ 36.80 บาท
สำหรับในเชิง Sentiment รับรู้ปัจจัยบวกจากกนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% และคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จากรัฐบาล โดยเฉพาะการเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยในประเทศมากขึ้นเป็นของขวัญปีใหม่ช่วงปลายปี รวมถึงเป็นหุ้นเป้าหมายของกองทุนวายภักษ์ ที่ CPAXT มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมี SET ESG Rating สูงระดับ AAA
ขณะที่ในเชิง valuation ราคาปัจจุบันชื่อขายบน PE ที่ 35.2 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 25.8 เท่า แต่มองว่าเหมาะสม เนื่องจากมีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิในปี 67-68 ในระดับสูงกว่ากลุ่ม โดยให้ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 37.00 บาท