MEGA โบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 48 บาท ลุ้นกำไร Q3 ฟื้น รับยอดขายยาหนุน

บล.พาย ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดการณ์ บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MEGA รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 355 ล้านบาท ลดลง 34% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน หลังตัดรายการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจะมีกำไรปกติไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 655 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 7% จากไตรมาสก่อนหน้า ผลจากยอดขายยาและอาหารเสริมที่เติบโตดี

แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายจากการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในกลุ่มสินค้า (วิตามินและอาหารเสริม) ใกล้เคียงกับช่วงครึ่งแรกของปี 67 ซึ่งคาดการณ์ว่าจะทยอยลดลงในไตรมาส 4/67 ขณะที่ธุรกิจจัดจำหน่ายลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ผลจากการบริโภคที่ชะลอตัวทำให้รายได้จัดจำหน่ายส่วนสินค้าอุปโภคบริโภคลดลง แม้ว่ายอดขายยาจะเติบโตเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

โดยคาดการณ์ว่ายอดขายธุรกิจยาและอาหารเสริม (Mega We Care) จะขยายตัว 5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ในปี 67 แต่ต่ำกว่าเป้าหมายของบริษัทที่ราว 7-9% หนุนจากการออกสินค้าใหม่ในช่วงที่ผ่านมากว่า 70 รายการในช่วง 65-67 ทั้งในหมวดยา (สัดส่วน 70%) และอาหารเสริม (สัดส่วน 30%) ซึ่งยาส่วนใหญ่จะอยู่ในหมวดทางเดินหายใจ เบาหวาน โรคหัวใจ โรคกระดูก และเนื้องอกมะเร็ง

ขณะที่รายได้ธุรกิจจัดจำหน่าย (Maxxcare’s) คาดว่าจะทรงตัวเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ใกล้เคียงกับเป้าหมายของบริษัท เนื่องจากยาและเวชภัณฑ์ในประเทศเมียนมานำเข้าจากต่างประเทศ และไม่มีผู้ผลิตในประเทศ ซึ่งสินค้าของ MEGA ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล

แต่อย่างไรก็ตามด้วยภาวะกำลังซื้อในเมียนมาที่ลดลงทำให้การจัดจำหน่ายยาสินค้าอุปโภคบริโภคยังไม่สามารถเติบโตได้เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนี้ ปี 69 จะได้แรงหนุนจากยอดขายในอินโดนีเซียที่เพิ่มขึ้นหลังทยอยนำสินค้าเข้าไปขาย รวมถึงผลิตสินค้าและขาย หลังจากเข้าซื้อโรงงานผลิตยาในช่วง 3 ปีที่แล้ว

ขณะที่ภาพระยะกลางบริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตปี 68 ที่จะเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปี 62 ขณะที่มูลค่าหุ้นน่าดึงดูด ปัจจุบันซื้อขายเพียง 15 เท่าในค่า PE ปี 68 โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 48.00 บาท