PRM โบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 11.80 บ. ลุ้นปันผลครึ่งหลังปี 67 เด่น
บล.ลิเบอเรเตอร์ เชียร์ “ซื้อ” PRM ราคาเป้าหมาย 11.80 บาท ผู้บริหารคาดจ่ายปันผลครึ่งหลังปี 67 สูงกว่า 0.24 บาท/หุ้น พ่วงโบรกมองธุรกิจลงทุนสินทรัพย์ต่างประเทศเด่น ลูกค้าต่างชาติแน่น
บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ระบุผ่านบทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM ราคาเป้าหมาย 11.80 บาท โดยฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าแนวโน้มการดำเนินงานในไตรมาส 4/67 คาดการณ์กำไรจะอ่อนตัวจากไตรมาสก่อนหน้า หลังจากมีเรือใหญ่ FSU, VLCC และ AWC ลำนี้ เข้าอู่ในช่วงมรสุมของอ่าวไทย ส่วนแนวโน้มปันผล ผู้บริหารคาดการณ์ว่าจะจ่ายไม่ต่ำกว่าครึ่งแรกปี 67 อยู่ที่ 0.24 บาท/ หุ้น ทำให้ทั้งปีจะสูงกว่าคาดการณ์ของฝ่ายนักวิเคราะห์ได้ ทำให้ Dividend yield จะสูงกว่า 5.8%
ขณะที่ล่าสุด ฝ่ายนักวิเคราะห์ได้เข้าเยี่ยมชม ชมเรือ นวธานี เมื่อวานนี้ 16 ม.ค. Accommodation Work Barge (AWB) ซึ่งกลับเข้ามาที่อู่เพื่อบำรุงรักษาในช่วงฤดูมรสุม ก่อนกลับเข้าทำงานสนับสนุนแท่นขุดเจาะแหล่งอาทิตย์ในวันที่ 25 ม.ค. จากนั้นจะปรับเข้าสัญญาใหม่ เดือน มิ.ย. ในราคาที่สูงขึ้นเล็กน้อย สรุปประเด็นที่น่าสนใจได้ คือ เรือแบบ AWB คือ เรือโรงแรมลอยน้ำ มีหน้าที่เป็นที่พักและที่ทำงานของคนงาน วิศวกร ผู้บริหาร ในกลางทะเล โดยเรือ นวธานี เป็น AWB ลำแรกของไทย มีอายุ 15 ปี ตั้งเป้าทำงานอีก 5-10 ปี
ขณะที่ PRM มีเรือ AWB 2 ลำ สนับสนุน บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ที่แหล่งเอราวัณ และอาทิตย์ ปัจจุบันมีอัตราการใช้งาน 100% อ้างอิงรอบทำงาน 4 เดือน พัก 1 เดือน จัดอยู่ในกลุ่ม Offshore service ซึ่งให้อัตรากำไรสูงกว่า 40% รองจากกลุ่ม FSU อยู่ที่ 56.8%
อีกทั้ง จุดเด่นที่ PTTEP พึงพอใจและต่อสัญญาต่อเนื่อง คือ การดำเนินงาน 100% โดยคนไทยที่มีความเข้าใจความต้องการของผู้อาศัยประสานงานกับหน้างานได้ดี ทำงานได้มาตรฐานสูงของผู้บริหาร PRM มองว่าจากแผนการทำงานของ PTTEP ในอนาคตเชื่อว่าจะมีความต้องการเรือ AWB อีกจำนวน 4-5 ลำ ซึ่ง PRM กำลังสั่งต่อเพิ่ม 1 ลำ เพื่อเข้าทำงานให้ PTTEP ในปี 70
ขณะที่ PRM กำลังพิจารณาขยายกองเรือลากจูง AHTS ซึ่งใช้ในการลากจูง AWB และเรืออื่นๆ ซึ่งปัจจุบันมีความต้องการสูงมาก จากเพียง 50 ลำทำงานในอ่าวไทย
นอกจากนี้ฝ่ายนักวิเคราะห์ มีมุมมองบวกต่อการเยี่ยมชมเรือ AWB ครั้งนี้ ทำให้พบว่าธุรกิจ Offshore ของ PRM ในอ่าวไทยและโดยรอบมีความยั่งยืนสูงมาก อีกทั้งการยึดมั่นใน ESG ทำให้การได้งานใหม่จากธุรกิจ E&P จาก PTTEP และบริษัทข้ามชาติอื่นๆ ยังคงไหลเข้ามาอีกเรื่อยๆ ขณะที่การดูแลนักลงทุนด้วยปันผลที่สูงก็เป็นจุดเด่นที่สำคัญทำให้เหมาะกับนักลงทุนสายปันผลระยะยาว เราแนะนำสะสมซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว