SAPPE ลุ้นกำไรปี 67 แตะ 1.3 พันล้าน โต 21% โบรกชูเป้า 78 บาท
SAPPE โบรกชี้กำไรปี 67 แตะ 1.3 พันล้านบาท โต 21% จากงวดเดียวกันของปีก่อน รับยอดขายเครื่องดื่มพุ่ง โดยยังคงให้ราคาเป้าหมาย 78 บาท พร้อมลุ้นการฟื้นตัวตลาดต่างประเทศในปี 68
บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ระบุว่า แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/67 ของ บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE ยังหดตัวจากไตรมาสก่อนหน้าต่อ แต่เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนคาดยังเติบโต 2 หลักได้
ทั้งนี้ คาดการณ์ดำเนินงานไตรมาส 4/67 จะหดตัวแรงจากไตรมาสก่อนหน้า สรุปในแต่ละตลาด โดยตลาดหลักอย่างยุโรปที่ยังไม่ฟื้นตัว ประกอบกับอากาศหนาว และเกาหลีที่ยังไม่ฟื้นเช่นกันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ส่วนตะวันออกกลางจากปัญหาความไม่สงบในประเทศ
อีกทั้งตลาดสหรัฐจะฟื้นตัวแรงก็ตาม แต่ไม่สามารถชดเชยได้เนื่องยังมีสัดส่วนรายได้เพียง 9% ของยอดขายเท่านั้น ทำให้คาดยอดขายรวมจะหดตัว 7% จากไตรมาสก่อยหน้า แต่ยังเติบโตเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 1,451 ล้านบาท ขณะที่แนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นนั้นคาดจะหดตัวจากไตรมาสก่อนหน้า ตามยอดขายที่ลดลง และค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น 2% จากไตรมาสก่อนหน้า
ส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารคาดจะเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาสก่อนหน้าจากปกติในไตรมาส 4/67 จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่คาดจะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 5 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิในไตรมาส 4/67 อยู่ที่ 228 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 36% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แต่หดตัวลดลง 24% จากไตรมาสก่อนหน้า
สรุปภาพปี 67 ยังเติบโตหากเป็นอย่างที่ทางฝ่ายวิจัยคาดไว้ยอดขายทั้งปีจะเติบโต 13% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 6,850 ล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นเป็น 46.20% จากต้นทุนวัตถุดิบลดลง และยอดขายเพิ่มขึ้น และคาดการณ์กำไรสุทธิปี 67 จะอยู่ที่ 1,298 ล้านบาท เติบโต 21% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้คาดการณ์ว่าในปี 68 ทุกอย่างจะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้งโดยเฉพาะการขยายตลาดต่างประเทศจากช่วงก่อนหน้าที่สะดุดไปบ้าง และคาดว่าตลาดเหล่านี้จะเป็นตลาดที่กลับมาฟื้นตัวแรงได้อีกครั้ง ขณะที่วัตถุดิบคาดทรงตัว แม้กำไรปีหน้าคาดการณ์เติบโตต่ำๆ แต่ SAPPE ยังเป็นตัวเลือกในกลุ่มเครื่องดื่มที่ชอบจากการขยายตลาดต่างประเทศได้ดีหากเทียบกับผู้ประกอบการในกลุ่มเดียวกัน
โดยปรับราคาเหมาะสมเบื้องต้นลงมาเหลือ 78.00 บาท จากปรับลด P/E เป้าหมายเป็น 18 เท่า จากค่าเฉลี่ยการซื้อขายในอดีต