![](https://media.kaohoon.com/wp-content/uploads/2024/03/GULF_2024-03-01.jpg)
GULF โบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 64.50 บ. ลุ้นกำไร Q1 นิวไฮ รับพลังงานสะอาดหนุน
GULF โบรกคาดกำไรไตรมาส 4/67 แตะ 4.9 พันล้าน โต 33% พร้อมคาดไตรมาส 1/68 ทุบสถิติสูงสุดใหม่ หนุนโดยพลังงานสะอาด-กำลังผลิตเพิ่มต่อเนื่อง ชูเป้าหมาย 64.50 บ. แนะ “ซื้อ” อัพไซด์แรง 12.17%
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า คาดการณ์กำไรปกติไตรมาส 4/67 ของ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF อยู่ที่ 4.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และ 4% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยหากไม่รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่คาดการณ์ไว้ที่ 710 ล้านบาท จากค่าเงินบาทอ่อนค่า ซึ่งหากกำไรเป็นไปตามตามที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 67 จะอยู่ที่ 1.84 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ คาดการณ์กำไรปกติในไตรมาส 1/68 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ ได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยการเปิดดำเนินการของโรงไฟฟ้าหินกอง หน่วยที่ 2 มีกำลังผลิต 377 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ใหม่เพิ่มขึ้น 295 เมกะวัตต์ รวมถึงระบบกักเก็บพลังงานผลกระทบจากการปรับลดค่าไฟฟ้า คาดว่าจะมีจำกัด โดยกำไรจะลดลงเพียง -1% ต่อการลดค่าไฟฟ้า 0.10 บาท/หน่วย โดยสมมติฐานค่าไฟฟ้า คาดค่าไฟฟ้าปี 2568 อยู่ที่ 3.95 บาท/หน่วย
แม้จะอยู่ในช่วงโลว์ซีซั่นของโรงไฟฟ้าในไทย แต่ผลประกอบการยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยกำไรปกติสามารถขยายตัวได้ทั้งเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้า ได้แรงหนุนจากการเพิ่มกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ (IPP) ที่ทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) เช่น โรงไฟฟ้า GPD หน่วยที่ 4 มีกำลังผลิตเพิ่มขึ้น 464 เมกะวัตต์, โรงไฟฟ้าหินกอง หน่วยที่ 1 มีกำลังผลิตเพิ่มขึ้น 377 เมกะวัตต์ และ GPD หน่วยที่ 3 มีกำลังผลิต 464 เมกะวัตต์
ขณะเดียวกัน อัตรากำไรของโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดเล็ก (SPP) ปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติปรับลดลง 7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และ 6% จากไตรมาสก่อนหน้า ประกอบกับค่าไฟฟ้าที่ทรงตัว ทำให้สามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ธุรกิจพลังงานลมยังคงแสดงศักยภาพที่แข็งแกร่ง โดยโรงไฟฟ้าพลังงานลมในต่างประเทศ เช่น Borkum 2 (เยอรมนี) และ Gulf Gunkul Corporation มีการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนถึงการเติบโตของพลังงานทดแทนที่ยังคงมีแนวโน้มขาขึ้น
สำหรับแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจโรงไฟฟ้ายังสดใส ด้วยกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต้นทุนก๊าซที่ลดลง และการขยายตัวของพลังงานสะอาด ซึ่งช่วยหนุนอัตรากำไรให้แข็งแกร่งในระยะยาว
ทั้งนี้ แนะนำ “ซื้อ” GULF ราคาเป้าหมายที่ 64.50 บาท ยังคงเป็นหุ้นเด่น ด้วยแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่งฐานะการเงินที่มั่นคงและผลกระทบที่จำกัดจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายค่าไฟฟ้า