
TOP โบรกชูเป้า 34 บ. หลัง Q4 พลิกกำไร 2.6 พันล้าน จ่ายปันผล 0.70 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ฯ คงราคาเป้าหมาย TOP ที่ 34 บาท หลังไตรมาส 4/67 พลิกมีกำไรสุทธิ 2,564 ล้านบาท จากไตรมาสก่อนขาดทุน พร้อมจ่ายปันผล 0.70 บาทต่อหุ้น คิดเป็นผลตอบแทน 2.8%
บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ได้เผยแพร่บทวิเคราะห์ถึงผลการดำเนินงานของ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP โดยระบุว่า ราคาเป้าหมายยังคงอยู่ที่ 34 บาท พร้อมทั้งรายงานว่าในไตรมาส 4/67 บริษัทสามารถพลิกกลับมีกำไรสุทธิ 2,564 ล้านบาท จากไตรมาสก่อนที่ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 4,218 ล้านบาท โดยผลประกอบการที่ดีกว่าคาดมีสาเหตุมาจากรายการพิเศษทางบวกที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
กลุ่มโรงกลั่น สามารถใช้กำลังการผลิตได้ที่ 113% ซึ่งคงที่จากไตรมาสก่อน และได้ประโยชน์จากส่วนต่างราคาน้ำมันเครื่องบินและดีเซลที่เพิ่มขึ้น ทำให้ค่าการกลั่น (GRM) ปรับตัวขึ้นเป็น 5.1 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จาก 3.7 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
กลุ่มอะโรเมติกส์ ใช้กำลังการผลิต 80% ขณะที่ กลุ่ม LAB ใช้กำลังการผลิตถึง 126% แต่เนื่องจากส่วนต่างราคา Benzene (เบนซีน) BZ ที่ลดลง ทำให้ค่าการกลั่นรวม (GIM) ลดลงเป็น 1 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จาก 1.2 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
กลุ่ม Lube base ใช้กำลังการผลิตที่ 83% และได้รับผลดีจากความต้องการ (Demand) ที่ดีขึ้นในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง รวมถึงอุปทานที่ตึงตัวจากการปิดการผลิตในเกาหลี ทำให้ GIM ปรับตัวดีขึ้นจาก 0.5 เหรียญสหรัฐเป็น 1.1 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
ส่วนตลาดบูรณาการ โดยรวมค่าการกลั่น (Market GIM) ใน 3 กลุ่มหลักเพิ่มขึ้นเป็น 7.1 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จาก 5.4 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แม้ว่าต้นทุนการผลิตจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.7 เหรียญสหรัฐ จาก 1.9 เหรียญสหรัฐ โดยเฉพาะในไตรมาส 4/67 ที่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าปกติ
นอกจากนี้ รายการพิเศษสุทธิในไตรมาส 4/67 ขาดทุน 631 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย ขาดทุนจากสต็อก 2,010 ล้านบาท, การโอนสินค้ากลับจาก NRV เพิ่มขึ้น 2,105 ล้านบาท, กำไรจากการป้องกันความเสี่ยง 230 ล้านบาท และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 487 ล้านบาท