
GPSC โบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 41.50 บาท ชี้กำไร Q1 แกร่ง รับโรงไฟฟ้า SPP หนุน
GPSC โบรกชี้กำไรปกติไตรมาส 1/68 จะเติบโตทั้งเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากอัตรากำไรของโรงไฟฟ้า SPP ที่แข็งแกร่ง โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 41.50 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KS ระบุในบทวิเคราะห์ว่า หลังประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 ของ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC อยู่ที่ 1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 109% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และ 30% จากไตรมาสก่อนหน้า สูงกว่าประมาณการของตลาด 10% และสูงกว่าที่ทางฝ่ายวิจัยคาดการณ์ไว้ 11% สาเหตุหลักมาจากเงินชดเชยจากบริษัทประกันภัย หากไม่รวมรายการพิเศษ เช่น ค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยโครงการ Glow Energy เฟส 5 เพิ่มขึ้น 431 ล้านบาท และปรับมูลค่าเงินลงทุน Thai Solar Renewable ลดลง 172 ล้านบาท กำไรปกติอยู่ที่ 731 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 114% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 32% จากไตรมาสก่อนหน้า
สำหรับปี 67 กำไรปกติเพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเป็น 4.1 พันล้านบาท โดยได้รับแรงหนุนจากผลการดำเนินงานของกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ที่แข็งแกร่งขึ้น โดยการเติบโตของกำไรปกติเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ได้แรงหนุนหลักจาก โรงไฟฟ้า SPP และโรงไฟฟ้าไซยะบุรี โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญ ได้แก่
กลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ที่มีผลประกอบการดีขึ้นจากอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจาก ค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นและต้นทุนก๊าซที่ลดลง รวมถึง ปริมาณการขายไฟฟ้า ที่เติบโตขึ้น 5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนจากความต้องการของภาคอุตสาหกรรม
ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นตามปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม การลดลงของกำไรจากไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลจากปัจจัยทางฤดูกาลเป็นหลัก โดยความต้องการใช้ไฟฟ้าลดลง และค่าใช้จ่าย SG&A ที่ปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ ประกาศจ่ายเงินปันผล GPSC อยู่ที่ 0.45 บาท/หุ้น พร้อมขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 3 มี.ค.68 และกำหนดจ่ายวันที่ 23 เม.ย.68
โดยแนวโน้มกำไรคาดว่ากำไรปกติในไตรมาส 1/68 จะเติบโตทั้งเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากอัตรากำไรของโรงไฟฟ้า SPP ที่แข็งแกร่ง โดยค่าไฟฟ้าทรงตัวที่ 4.15 บาท/kWh รวมถึงผลกระทบจากความไม่สอดคล้องของราคาถ่านหินของโรงไฟฟ้า GHECO-One ที่ลดลง เนื่องจากโรงไฟฟ้าหยุดดำเนินการชั่วคราว (Reserve Shutdown) จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2568
ทั้งนี้ คงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายอิงด้วยวิธี SOTP ที่ 41.50 บาท แม้ว่าความเสี่ยงด้านการปรับลดค่าไฟฟ้าจะยังคงมีอยู่ แต่อาจมี upside หากการปรับลดไม่รุนแรงเท่าที่คาด โดย ณ ปัจจุบัน GPSC ซื้อขายด้วย PER ปี 2568 ที่ 17 เท่า