โบรกแนะซื้อ BDMS เป้า 33 บ. มองกำไรปี 68 แตะ 1.6 หมื่นล้าน

โบรกแนะนำซื้อ BDMS ราคาเป้าหมาย 33 บาท มองกำไรปี 68 แตะ 1.6 หมื่นล้านบาท อานิสงส์รายได้ผู้ป่วยไทย และต่างชาติกลุ่ม CLMV รวมถึงตะวันออกกลางหนุน


บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ถึง บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS โดยให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมที่ 33.00 บาท ซึ่งคาดการณ์ในไตรมาส 1/2568 รายได้จากผู้ป่วยชาวไทยเติบโตในระดับ mid-single-digit จากปีก่อหน้า ขณะที่ รายได้จากผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น ระดับ double digits จากปีก่อนหน้าเช่นกัน โดยมีปัจจัยหนุนจากกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ CLMV หรือ กัมพูชา, ลาว เมียนมา และเวียดนาม รวมถึงตะวันออกกลาง

ทั้งนี้ ตลาดที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ได้แก่ กลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งในปี 2567 รายได้เติบโตในระดับทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่ในปี 2568 มีการเร่งตัวขึ้นโดยในเดือนกุมภาพันธ์พบว่าเติบโตเพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน

ขณะเดียวกัน ตลาดตะวันออกกลางแสดงสัญญาณฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 1/2568 มีอัตราการเติบโตที่เร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์กำไรปี 68 อยู่ที่ 16,878 ล้านบาท ขณะที่ ผู้บริษัทมีการตั้งเป้า EBITDA Margin ปี 2568 อยู่ที่ 24-25% สะท้อนถึงความสามารถในการบริหารต้นทุนและขยายฐานรายได้จากผู้ป่วยทั้งในและต่างประเทศ

สำหรับแผนการขยายกิจการ BDMS มีโครงการลงทุนสำคัญ ได้แก่ โครงการ Proton Building อาคารสำหรับติดตั้งเครื่องฉายโปรตอนเพื่อรักษาโรคมะเร็งซึ่งนับเป็นเครื่องที่สองของประเทศไทย ถัดจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ตั้งอยู่ภายในวิทยาเขตหลักของ BDMS ใช้งบลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท ศูนย์ฟื้นฟูใหม่ ในวิทยาเขตหลักของ BDMS ด้วยงบลงทุน 1,600 ล้านบาท โรงพยาบาลใหม่ 3 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพ เขาใหญ่, กรุงเทพ หัวหิน และกรุงเทพ สุราษฎร์ รวม 165 เตียง คาดว่าจะเปิดให้บริการระหว่าง ปลายปี 2568 – 2569

นอกจากนี้ BDMS ยังเดินหน้าพัฒนา โครงการ Silver Wellness ซึ่งเป็นศูนย์ดูแลสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2573 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขออนุมัติ EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) ในรอบที่สอง

ทั้งนี้คาดการณ์ว่าในช่วง 5 ปีข้างหน้างบลงทุนจะอยู่ที่ประมาณ 8-10% ของรายได้รวมต่อปีเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการระดับสากล ส่วนการประหยัดภาษีเพื่อสนับสนุนกำไรผู้บริหารแนะนำว่าจะมีการประหยัดภาษี 200-300 ล้านบาทในปี 2568จากการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล, โครงการสีเขียว และการจ้างผู้เชี่ยวชาญ

Back to top button