DOHOME โบรกอัพเป้าใหม่ 7.50 บาท ลุ้นกำไรปีนี้ 871 ล้าน โต 29%

DOHOME โบรกชี้กำไรปี 68 แตะ 871 ล้านบาท เติบโต 29% จากการขยายสาขาขนาดใหญ่อีกครั้ง พร้อมลุ้นรัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” พร้อมปรับราคาเป้าหมายเป็น 7.50 บาท


บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (31 มี.ค.68) ว่า คาดเห็นการฟื้นตัวของกำไรในไตรมาส 1/68 ของ บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME จากยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่เป็นบวกได้ประกอบกับอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ขยายตัว โดยมีประเด็นดังนี้

1) ในไตรมาส 1/68 ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ยังคงเติบโตในระดับตัวเลขหลักเดียวต่ำ (low single digit) โดยมีแรงส่งเชิงบวกต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมกราคม และเร่งตัวขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม ในเดือนมีนาคม กลุ่มลูกค้า Back Office เริ่มชะลอตัวลงมาอยู่ในระดับทรงตัว เนื่องจากการเบิกจ่ายงบประมาณโครงการล่าช้า

แม้ไม่มีการเปิดสาขาใหม่ในไตรมาส 1/68 (โดยสาขาใหม่แห่งแรกของปีมีกำหนดเปิดในไตรมาส 2/68) แต่ฝ่ายวิจัยยังคงคาดการณ์ว่า SSSG ไตรมาส 1/68 จะเฉลี่ยออกมาเป็นบวกในระดับ low single digit ส่งผลให้รายได้โดยรวมมีแนวโน้มเติบโตในช่วง 4-6%

2) GPM ในไตรมาส 1/68 QTD อยู่ที่ 18% โดยยังมีHouse Brand Mix อยู่ที่ 19% (ระดับเดียวกับในไตรมาส 1/67) แม้สัดส่วนการขายของ Construction materials มากขึ้นจากรายได้ลูกค้างานโครงการมากขึ้น โดยHouse brand GPM ปัจจุบันอยู่ที่ 35% (จากในไตรมาส 4/67 ที่ 34%)

3) สินค้ากลุ่มเหล็กมีสัดส่วนอยู่ที่ 30% มีอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) อยู่ที่ระดับ 9-11% จากการจัดการ inventory สินค้าเหล็กได้ดี ทำให้ต้นทุนไม่ผันผวน อย่างไรก็ดีแม้ราคาเหล็กจะอ่อนตัวกว่าในไตรมาส 1/67 แต่ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของสินค้าเหล็กยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก volume ที่เพิ่มขึ้น

4) มองค่าใช้จ่าย (SG&A/sales) ปรับตัวลดลงจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงค่าใช้ดอกเบี้ยที่ลดลงจากต้นทุน ทางการเงินที่ลดลงทำให้คาดกำไรไตรมาส 1/68 อยู่ในกรอบ 240-260 ล้านบาท ขยายตัวจากไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

โดยคงประมาณการกำไรปี 68 อยู่ที่ 871 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหนุนจากการขยายสาขาขนาดใหญ่อีกครั้ง และคาดแนวโน้มยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ในไตรมาส 1/68 ทรงตัวถึงเป็นบวกเล็กน้อย โดยกลุ่ม End-user มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และงานโครงการที่ยังเป็นตัวหนุนหลัก โดยในปี 68 คาดเปิดสาขาใหญ่ 2 แห่ง (เริ่มก่อสร้างทั้งหมด 3 แห่ง) สนับสนุนการเติบโตระยะยาว โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 7.50 บาท

Back to top button