PTTEP:สะท้อนการฟื้นตัวผลประกอบการแล้วหั่นเป้าหมายใหม่เป็น 62 บ.จากเดิม 50 บ.
PTTEP แนะนำ Fully Valued โดยราคาปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ปี 59-60 ที่สูงกว่า 30 เท่า ซึ่งสะท้อนการฟื้นตัวของผลประกอบการบริษัทไปพอสมควรแล้ว ปรับราคาพื้นฐานเป็น 62 บาท (DCF) จากเดิมที่ 50 บาท หลังจากปรับเปลี่ยนค่า L/T beta เป็น 1.1 เท่าและราคาน้ำมันดิบ BRENT ความเสี่ยงต่อประมาณการและคำแนะนำของเรา คือ ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบซึ่งมีผลต่อประมาณการกำไร และการเปิดสัมทานปิโตรเลียมรอบใหม่ ถ้าหากรัฐบาลให้ดำเนินการก็จะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้นได้
บล.ดีบีเอส ประเทศไทย ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (18 มี.ค.) ว่า บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ปริมาณขายก๊าซคาดว่าจะสูงสุดในปี 59 โดยในปี 58 เพิ่มขึ้น 2.8%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนทั้งนี้การปรับลดราคาขายก๊าซในไตรมาส 4/58 ทำให้ความสามารถในการแข่งขันดีขึ้น ทำให้ปริมาณขายในปีนี้จะขยายตัวได้ดีขึ้นเป็น 3.4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งน่าจะเป็นระดับสูงสุดจากการลงทุนที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบันบริษัทเหลืออายุสำรองก๊าซที่ผลิตได้อีกราว 5 ปี
คาดว่าราคาจะค่อยๆ ฟื้นตัวและต้องใช้เวลาในการปรับสมดุลอุปสงค์ & อุปทาน โดยปัจจัยที่ยังกดดัน คือ อุปสงค์ที่อ่อนแอในจีนและเศรษฐกิจทั่วโลกที่ขยายตัวได้ไม่มาก ใช้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบ BRENT ปี 59-61 ไว้ที่ 35-45 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือเท่ากับราคาน้ำมันดิบดูไบที่ 33-43 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบระยะยาวใช้สมมติฐานที่ 60 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาก๊าซผันผวนน้อยกว่าน้ำมันดิบ โดย PTTEP มีปริมาณขายก๊าซคิดเป็น 70% ของปริมาณขายทั้งหมด ส่วนที่เหลืออีก 30% เป็นปริมาณขายน้ำมันและคอนเดนเสท ซึ่งราคาเปลี่ยนแปลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ
แนะนำ Fully Valued โดยราคาปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ปี 59-60 ที่สูงกว่า 30 เท่า ซึ่งสะท้อนการฟื้นตัวของผลประกอบการบริษัทไปพอสมควรแล้ว ปรับราคาพื้นฐานเป็น 62 บาท (DCF) จากเดิมที่ 50 บาท หลังจากปรับเปลี่ยนค่า L/T beta เป็น 1.1 เท่าและราคาน้ำมันดิบ BRENT ความเสี่ยงต่อประมาณการและคำแนะนำของเรา คือ ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบซึ่งมีผลต่อประมาณการกำไร และการเปิดสัมทานปิโตรเลียมรอบใหม่ ถ้าหากรัฐบาลให้ดำเนินการก็จะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้นได้