SCB:ส่องคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นแนะซื้อราคาเป้าหมาย165 บาท

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (26 เม.ย.) ว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กำไรสุทธิไตรมาส 1/59 แย่กว่าคาด โดยออกมา 10.5 พันล้านบาท (-20%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, -11%เทียบไตรมาสก่อนหน้า) เนื่องจากมีการเปลี่ยนวิธีการทางบัญชี จึงรับรู้ผลขาดทุนในธุรกิจประกัน 15.7 พันล้านบาท แต่ส่วนนี้ได้รับการชดเชยด้วยกำไรจากการตีมูลค่าสินทรัพย์ 11.7 พันล้านบาท ด้านรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยต่ำกว่าคาด (-33%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, -26%เทียบไตรมาสก่อนหน้า) ส่วนรายการอื่นๆ เป็นไปตามที่ประเมินไว้ กำไรสุทธิ ไตรมาส 1/59 คิดเป็น 22% ของประมาณการทั้งปี 59

สินเชื่อเพิ่มขึ้น 0.3%เทียบไตรมาสก่อนหน้า โดยหลักมาจากการขยายตัวของสินเชื่อที่พักอาศัยและ SME ขณะที่สินเชื่อรายใหญ่ลดลง ทั้งนี้สินเชื่อ SME (20% ของสินเชื่อรวม) เติบโต 1.5%เทียบไตรมาสก่อนหน้า สินเชื่อรายย่อย (45% ของสินเชื่อรวม) เพิ่มขึ้น 0.1%เทียบไตรมาสก่อนหน้า ส่วนสินเชื่อรายใหญ่ (35% ของสินเชื่อรวม) หดตัว 0.1%เทียบไตรมาสก่อนหน้า โดยในส่วนของสินเชื่อรายย่อย พบว่าสินเชื่อที่พักอาศัย (32% ของสินเชื่อรวม) เติบโต 1.1%เทียบไตรมาสก่อนหน้า แต่สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ (9% ของสินเชื่อรวม) หดตัว 5.8%เทียบไตรมาสก่อนหน้า

คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น โดย NPL ลดลง 6.5%เทียบไตรมาสก่อนหน้า เพราะขยับสินเชื่อรายใหญ่หนึ่งขึ้นเป็นสินเชื่อปกติ และมีการขาย NPL ออกไป 1.8 พันล้านบาท ทำให้ NPL Ratio ลดลงเป็น 2.64% ในสิ้นมี.ค.59 จาก 2.89% ในสิ้นปี 58 แต่ธนาคารยังตั้งสำรองค่าเผื่อฯสูงใน ไตรมาส 1/59 ที่ 1.09% ของสินเชื่อรวมในสิ้น ไตรมาส 1/59 ทำให้ Coverage Ratio เพิ่มเป็น 122.8% จาก 109.8% ในสิ้นธ.ค.58 ส่วน CAR อยู่ที่ 17.0% สิ้นมี.ค.59 โดยเป็น CET 1 Ratio และ Tier 1 Ratio เท่ากับ 14.0% จากเกณฑ์ขั้นต่ำที่ธปท.กำหนดไว้ที่ 9.125%, 5.125% และ 6.625% ตามลำดับ ธนาคารมีแผนที่จะเพิ่ม Coverage Ratio ขึ้นในช่วง 2-3 ไตรมาสข้างหน้า จึงคาดว่ายังคงตั้งสำรองค่าเผื่อฯสูงต่อ แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 165 บาท อิงกับ Gordon Growth Model ซึ่งเทียบเท่ากับ P/BV ปี 59 ที่ 1.7 เท่า