TKN:โบรกฯชูหุ้น growth stockแนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 12 บาท

TKN:กำไร 1Q59 โตเป็นไตรมาสที่ 5 ยังแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 12 บาท (อิง DCF@WACC 10.6%) เพราะเป็นหุ้น growth stock ที่มีโอกาสเติบโตมากกว่าคาดจากการทำการตลาดในเชิงรุกในต่างประเทศ และ มี ROE สูงถึง 24% ในปี ปี 59


บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (10 พ.ค.) ว่าบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN คาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 1/59 เพิ่มขึ้น 119% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนแต่ลดลง 24% เทียบไตรมาสก่อนหน้าอยู่ที่ประมาณ 112 ล้านบาท ที่สำคัญการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนถือเป็นไตรมาส ที่ 5 ติดต่อกัน จากการขยายตลาดในเชิบรุกและต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามกำไรสุทธิในไตรมาส 1/59 จะคิดเป็น 20% ของประมาณการทั้งปี59 ซึ่งโดยปกติกำไรของไตรมาสแรกของทุกปีจะเป็นไตรมาสที่ต่ำสุดของปี หลังจากนั้นก็จะปรับเพิ่มขึ้นเป็นลำดับและจะ Peak ไตรมาสสุดท้ายของปี (TKN จะประกาศงบวันที่ 11 พ.ค และ Opportunity day วันที่ 13 พ.ค. นี้) 

คาดยอดขายไตรมาส 1/59 เพิ่มขึ้น 32%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนแต่ปรับลดลง 6% เทียบไตรมาสก่อนหน้าอยู่ที่ 922 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 24% ของประมาณการณ์ของเรา โดยคาดสัดส่วนยอดขายในประเทศจีนปรับเพิ่มขึ้นเป็น 26% ของยอดขายรวม จาก 24% ในปี58

 ขณะที่แนวโน้มยอดขายในประเทศแถบ CLMV และ อินโดนิเซียยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน TKN ออกสินค้าใหม่จำนวน 2 รายการวางจำหน่ายในร้านเถ้าแก่น้อยแลนด์ ซึ่งสินค้าในร้านเถ้าแก่น้อยแลนด์ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งจะส่งผลให้ยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น

 นอกจากนี้คาดว่าจะได้เห็นความคืบหน้าในเรื่องการเซ็นสัญญากับ Distributor ในประเทศจีนหลังจากการประกาศงบ ไตรมาส 1/59 ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนถึงแผนธุรกิจการส่งออกไปยังประเทศจีนมากขึ้นและจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะหนุนการเติบโตของยอดขายและกำไรในไตรมาส 2-4/59 และอาจทำให้ทั้งปีมีกำไรมากกว่าที่คาดได้

ชอบหุ้นเถ่าแก่น้อยเพราะว่า TKN ประสบความสำเร็จจากการขายสาหร่ายในประเทศและกลายเป็นแบนด์ที่แข็งแกร่งและจนกลายเป็นผู้นำตลาดสาหร่ายในปัจจุบัน จากการขายผ่าน Modern trade และ Distributor ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายกันที่ระดับ PE ที่ 27.5 เท่า หรือ PEG 1 เท่า ซึ่งถือว่าไม่แพงหากเทียบอัตราการเติบโตเฉลี่ยของกำไรที่สูงถึงปีละ 26% ในอีก 3 ปีข้างหน้า และสูงกว่ากลุ่มอุตสหกรรมเดียวกันที่เติบโตเพียง 18% แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 12 บาท

Back to top button