KCE:คาดปีนี้จะเป็นอีกหนึ่งปีทองแนะซื้อราคาเป้าหมาย 95 บาท

KCE จะสามารถโตแซงอุตสาหกรรมได้ด้วยการเพิ่มส่วนแบ่งตลาด และราคาหุ้นก็น่าจะวิ่งตามกำไรที่ถูกขับเคลื่อนโดยการขยายกำลังการผลิต ความเสี่ยงหลักอยู่ที่การแข่งขันตัดราคาที่รุนแรงขึ้นและส่งผลกระทบกับ GPM เนื่องจากมีอุปทานใหม่จากการขยายกำลังการผลิตของคู่แข่งแนะซื้อราคาเป้าหมาย 95 บาท


บล. กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (12 พ.ค.) ว่า  บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน หรือ KCE กำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจากยอดขายที่สูงถึง US$99 ล้าน (+15% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +6% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) โดยมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น ในขณะที่ปริมาณยอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 17% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

แต่ถึงแม้ว่า KCE จะยอมเฉือนราคาขายลงประมาณ 4% เพื่อเพิ่มปริมาณยอดขายและส่วนแบ่งตลาด แต่ GPM ก็ยังเพิ่มขึ้นได้เป็น 33.9% (+5.1ppt เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +0.2ppt เทียบไตรมาสก่อนหน้า) จากการประหยัดต่อขนาด ในไตรมาสแรกนี้ KCE มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 23 ล้านบาท

ในขณะที่กำไรจากธุรกิจหลักคิดเป็นสัดส่วน 24% ของประมาณการทั้งปี คาดว่าการขยายกำลังการผลิตเฟสที่ 3 จะเริ่มเปิดดำเนินการได้ในไตรมาส 3/60 ซึ่งจะช่วยหนุนโมเมนตั้มการเติบโตของกำไรในครึ่งหลังของปีนี้

GPM ของ KCE สูงโดดเด่นอยู่ที่ 34% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 16.7% เนื่องจาก50% ของ COGS (เคมีภัณฑ์ และ Laminate) มาจากบริษัทลูก ซึ่งเราเชื่อว่านี่เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนยอดขายและส่วนแบ่งตลาดของ KCE ด้วยกลยุทธ์การตัดราคาขายในช่วงสามปีที่ผ่านมา

 ทั้งนี้ บริษัทคู่แข่งอย่าง “Chin-poon” ก็ได้ขยายโรงงานในไต้หวันและประเทศไทย ซึ่งโรงงานในไทยคือ DRACO PCB แต่โรงงานใหม่นี้ก็ยังต้องเผชิญกับความท้าทายกว่าที่จะถึงจุดคุ้มทุนเพราะต้องใช้เวลาสองสามปีกว่าที่จะได้รับการยอมรับจาก tier-1 suppliers ในเบื้องต้น
คาดว่ายอดขายในไตรมาส 2/59 ในรูปดอลลาร์จะโต 6% เทียบไตรมาสก่อนหน้าเป็น US$105 ล้าน และ GPM จะอยู่ที่ 34.5% ซึ่งจะทำให้กำไรในไตรมาส 2/59 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 770 ล้านบาท (+53% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +4% เทียบไตรมาสก่อนหน้า)

ราคาเป้าหมาของเราอิงจาก P/E ปี FY16F ที่ 18x โดยเราคิดว่าหุ้น KCE สมควรที่จะมี premium จากกลุ่มเนื่องจากคาดว่ากำไรปี FY16F จะโตถึง 39% ซึ่งสูงกว่าคู่แข่ง และบริษัทก็ยังจะได้อานิสงส์โดยตรงจากการที่อุตสาหกรรมอยู่ในช่วงขาขึ้น

มองว่าตลาด PCB ของยานยนต์ถูกกระทบจากปัจจัยด้านฤดูกาลค่อนข้างน้อย และเติบโตอย่างมั่นคงที่ประมาณปีละ 6% แต่เชื่อว่า KCE จะสามารถโตแซงอุตสาหกรรมได้ด้วยการเพิ่มส่วนแบ่งตลาด และราคาหุ้นก็น่าจะวิ่งตามกำไรที่ถูกขับเคลื่อนโดยการขยายกำลังการผลิต ความเสี่ยงหลักอยู่ที่การแข่งขันตัดราคาที่รุนแรงขึ้นและส่งผลกระทบกับ GPM เนื่องจากมีอุปทานใหม่จากการขยายกำลังการผลิตของคู่แข่ง

Back to top button