SEAFCO:เพิ่มประมาณการปีนี้-ปีหน้าแนะซื้อเป้า 12.4 บาท ชู upside 16%

SEAFCO ปรับประมาณการปีนี้และปีหน้าขึ้นถึง 14%/9% หลังผู้บริหารให้แนวทางอัตรากำไรขั้นต้นสูงที่ 20% ช่วงครึ่งแรกปีนี้ได้งาน 1 พันล้านบาท แม้งานรัฐยังออกมาไม่มาก ส่วนครึ่งปีหลังคาดว่าได้อีก 1-2 พันล้านบาท แนวโน้มกำไรหลัก ไตรมาส 2/59 ใกล้เคียงกับ ไตรมาส 1/59 ที่ 54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนถือว่าอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐานใหม่ปรับขึ้นตามการปรับประมาณการได้เป็น 12.40 บาท ราคาปิดมีส่วนเพิ่มอีก 16% คาดการณ์กำไรหลักปีนี้โตสูง 53% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนคาดว่าจะได้รับงานอีกมากเมื่องานรัฐทยอยออกมา ตั้งแต่ครึ่งหลังปีนี้


บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (27 มิ.ย.) ว่า บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO ผู้บริหารได้ให้แนวทางคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น ไตรมาส 2/59 ยังอยู่ในระดับสูงที่ 20% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น ไตรมาส 1/59 อยู่ที่ 20% เราคาดว่าในเมื่อในช่วง 2H59 จะมีงานขนาดใหญ่ของภาครัฐเข้ามา ซึ่งปกติจะให้อัตรากำไรขั้นต้นสูง จึงเป็นแรงจูงใจให้เราปรับอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้และปีหน้าเป็น 20% ทั้งสองปี จากเดิมที่ 18.5% และ 19% ตามลำดับ ยังผลให้คาดการณ์กำไรหลักเพิ่มขึ้นจากเดิม 14%/9% ตามลำดับ

บริษัทได้เปิดเผยว่าในช่วงครึ่งแรกปีนี้ได้งานใหม่ประมาณ 1 พันล้านบาท โดยเป็นงานอาคารสูง 780 ล้านบาท และงานรถไฟทางคู่ช่วงชุมทาง จิระ-ขอนแก่น อีก 220 ล้านบาท ซึ่งบริษัททำเป็นผู้รับเหมาช่วงในส่วนงานเสาเข็มเจาะ ข้อดีคือ ช่วยให้งานก่อสร้างในมือ (Backlog) เพิ่มมาเป็น 1 พันล้านบาท และเป็นการชดเชยงานก่อสร้างที่เสร็จและรับรู้เป็นรายได้ในช่วง 1H59

สำหรับงานภาคเอกชนได้มีการเข้าร่วมประมูลงานประเภทเสาเข็มสำหรับอาคารสูงในเขต กทม.มูลค่างานรวมกว่า 2 พันล้านบาท บริษัทคาดว่าจะได้รับประมาณ 30% หรือ 600 ล้านบาท ส่วนงานภาครัฐจะมีรถไฟฟ้า 3 สาย ที่มีความคืบหน้าเรื่องการเปิดประมูลจากนี้ไปได้แก่ สายสีส้ม ชมพู และเหลือง นอกจากนี้ยังมีงานขนาดใหญ่อื่นๆอีก เช่น สนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 งานมอร์เตอร์เวย์ และงานอื่นๆ

เพราะ สัญญาแรกคือ อาคารเทียบเครื่องบินหลังที่ 1 นั้น ITD ได้รับงานไป ส่วนสัญญา 2 เป็นงานระบบสาธารณูปโภคซึ่ง ILINK และสามประสิทธิ์ได้ไป จากประวัติ ผู้ชนะทั้งสองสัญญาก็ไม่เคยว่าจ้างให้บริษัทเป็นผู้รับเหมาช่วง ส่วนสัญญาที่เหลืออีก 3 สัญญาจะไปเปิดประมูลปีหน้า ส่วนใหญ่เป็นงานอาคารต่างๆ หาก CK ประมูลได้ ก็จะเป็นโอกาสสำหรับ SEAFCO ที่จะทำหน้าที่เป็นผู้รับเหมาช่วงในส่วนงานเสาเข็มและฐานรากต่างๆ เพราะมีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเป็นระยะเวลายาวนาน

บริษัทได้ให้แนวทางว่ากำไรในงวด ไตรมาส 2/59 จะใกล้เคียงกับ ไตรมาส 1/59 ที่มีรายได้ 510 ล้านบาทและกำไรหลักเป็น 54 ล้านบาท โดยหากนำมาเปรียบเทียบกับ ไตรมาส 2/58 หรือ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้ 433 ล้านบาท และกำไรหลักเป็น 49 ล้านบาท ก็คิดเป็นอัตราการเพิ่มของกำไรที่ประมาณ 10% ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ อีกทั้งฐานปีที่แล้วในช่วงครึ่งปีหลัง หรือ 2H58 ทำกำไรหลักได้เพียง 68 ล้านบาท หากบริษัทสามารถรักษากำไรต่อไตรมาสให้มีความเสถียรไว้ได้ ก็จะทำให้กำไรหลักตลอดปี 58 มีการเติบโตที่สูงโดดเด่น

ราคาพื้นฐานใหม่ปรับขึ้นตามการปรับประมาณการได้เป็น 12.40 บาท จากเดิมที่ 10.95 บาท ราคาปิดมีส่วนเพิ่มได้อีก 16% สำหรับคาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผลปีนี้และปีหน้าเป็น 3.2% และ 3.4% ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ด้านคาดการณ์กำไรหลักปีนี้โตสูง 53% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและปี 60 เพิ่มต่อเนื่องอีก 6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนถือเป็นสถิติกำไรสูงสุดใหม่ตั้งแต่จัดตั้งบริษัทมา สำหรับแรงกระตุ้นราคาหุ้น คาดว่าจะได้รับงานอีกมากเมื่องานภาครัฐทยอยออกมา ตั้งแต่ครึ่งหลังปีนี้ไปจนถึงอีก 1-2 ปีข้างหน้า ด้านปัจจัยเสี่ยงคือ งานภาครัฐออกมาล่าช้า มีปัญหาส่งมอบพื้นที่ และความผันผวนของราคาวัสดุก่อสร้าง

Back to top button