STE ปิดบวก 5 จุด รับแรงเก็งกำไร “กลุ่มไฟฟ้า” หนุน ลุ้นพรุ่งนี้ฟื้นต่อ แนวต้าน 1,560

SET ปิดบวก 5.35 จุด เทคนิคเคิลรีบาวด์หลังลงไปมากแล้ว - Bond yield ลงไปมากดัน Earning yield gap สูงกว่าค่าเฉลี่ย ขณะที่โควิดระบาดหนักยังถ่วง คาดพรุ่งนี้ตลาดฯยังมีโอกาสฟื้นต่อเนื่อง


10 หุ้นดันดัชนีวันนี้

ตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ระดับ 1,545.86 จุด เพิ่มขึ้น 5.35 จุด (+0.35%) มูลค่าการซื้อขาย 66,896.57 ล้านบาท

นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เกิดเทคนิครีบาวด์หลังลงไปมากแล้ว และหากดัชนีฯสามารถยืนเหนือระดับ 1,545 จุดได้น่าจะมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากมองในแง่ Valuation ดัชนีฯก็ได้ปรับตัวลงมามาก และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ของไทยก็ลงมามากด้วย ทำให้ Earning Yield Gap อยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย จึงน่าสนใจในการทยอยซื้อ

อย่างไรก็ดี จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศยังอยู่ในระดับสูงกว่า 2 หมื่นรายในวันนี้ จึงยังเป็นปัจจัยถ่วงตลาดฯอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าน่าจะถึงจุดพีคในปลายเดือน ส.ค.นี้หลังจากระบาดหนักยาว 2 เดือนจากนั้นก็จะค่อย ๆ คลายตัวลง ขณะที่นักลงทุนต่างชาติก็อาจจะทยอยเข้ามาซื้อหลังจากที่ตลาดลงไปมากแล้ว

พร้อมกันนี้ให้ติดตามความคืบหน้าการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นไปตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หากผ่านไปได้จะมีผลอย่างมีนัยให้สินค้าโภคภัณฑ์เร่งตัวขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายตลาดวันนี้มีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ซึ่งเข้ามาช่วยหนุนดัชนีให้ปรับตัวขึ้น

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ค.) นายสุโชติ กล่าวว่า ดัชนีฯสามารถยืนเหนือ 1,545 จุดได้ ทำให้มีโอกาสที่จะฟื้นตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง และจะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,560 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,530 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

GPSC มูลค่าการซื้อขาย 2,635.70 ล้านบาท ปิดที่ 81.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท

GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,166.95 ล้านบาท ปิดที่ 36.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท

7UP มูลค่าการซื้อขาย 2,053.37 ล้านบาท ปิดที่ 1.78 บาท ลดลง 0.76 บาท

SNNP มูลค่าการซื้อขาย 1,987.50 ล้านบาท ปิดที่ 12.80 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,822.16 ล้านบาท ปิดที่ 35.00 บาท ลดลง 0.25 บาท

Back to top button