SET แกร่ง! ปิดเหนือ 1,600 จุดแม้เจอหลายปัจจัยกดดัน โบรกมองสัปดาห์หน้าไซด์เวย์

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ย่อตัวลงก่อนดีดตัวกลับขึ้นมาหลังเข้าใกล้แนวรับ 1,592 จุด และดัชนีฯยังสามารถปิดตลาดยืนเหนือระดับ 1,600 จุดได้ ซึ่งถือว่าตลาดบ้านเราดูจะแข็งแกร่งกว่าตลาดต่างประเทศ

โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ เช่นเดียวกับตลาดยุโรปเทรดบ่ายนี้ติดลบเฉลี่ย 0.80% เหมือนกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สติดลบเกือบ 200 จุด รับแรงกดดันปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐฯ แต่เชื่อว่าที่สุดแล้วก็น่าจะตกลงกันได้เหมือนทุกรอบ และกังวลปัญหา Supply พลังงานเกิด Shorttage ในจีน ดังนั้น ปัจจัยจากต่างประเทศจึงเป็นแรงกดดันอยู่

ทั้งนี้บ้านเราในระยะสั้นไม่มีปัจจัยกดดันมาก มีเพียงสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งหากไม่เข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯก็น่าจะผ่อนคลายได้เร็ว และในวันนี้ (1 ต.ค.) เริ่มคลายล็อกดาวน์มาตรการสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนั้นโมเมนตัมในประเทศถือว่ายังดี นอกจากนี้เงินบาทเริ่มชะลอการอ่อนค่าแล้ว โดยมาอยู่แถว 33.50 – 33.60 บาท ถือว่าดีขึ้น

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯยังไม่ปลดล็อกทีเดียว และยังเข้าสู่ช่วยของการพรีวิวผลประกอบการของกลุ่มแบงก์งวดไตรมาส 3/2564 คาดว่ากำไรคงไม่ได้โดดเด่นและมีโอกาสถอยลงเล็กน้อย ดังนั้น ตลาดฯจึงน่าจะสร้างฐานก่อน โดยดัชนีฯคงแกว่งไซด์เวย์ เนื่องจากปัจจัยนอกประเทศยังไม่เอื้อ อย่างไรก็ดี ไตรมาส 4/2564 น่าจะเห็นผลดำเนินงานฟื้นตัว

อย่างไรก็ดีพร้อมให้แนวรับ 1,590 จุด ส่วนแนวต้าน 1,620 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 4,725.80 ล้านบาท ปิดที่ 13.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท

GULF มูลค่าการซื้อขาย 3,613.48 ล้านบาท ปิดที่ 43.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,324.12 ล้านบาท ปิดที่ 134.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,515.13 ล้านบาท ปิดที่ 123.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

GUNKUL มูลค่าการซื้อขาย 2,100.60 ล้านบาท ปิดที่ 5.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.19 บาท