SET ปิดรูด 21 จุด แวลู่ทะลัก 1.6 แสนลบ. “นิวไฮ” รอบ 6 เดือน ลุ้นพรุ่งนี้รีบาวด์หลังลงลึก

โดยนักวิเคราะห์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้พลิกกลับมาปิดร่วงลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ติดลบราว 1.30% เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่ปรับตัวลงราว 1.50% หลังจากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมเดอร์นา อิงค์ ระบุว่าประสิทธิภาพของวัคซีนโมเดอร์นาอาจลดลงเมื่อเจอสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งต้องรอวัคซีนตัวใหม่อีก 2-3 เดือน ทำให้มองว่าสถานการณ์อาจรุนแรงขึ้นจนถึงขั้นกลับไปล็อกดาวน์อีกหรือไม่ ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงเป็นลบ โดยราคาน้ำมันฟิวเจอร์สปรับตัวลง 2% ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้น 0.5%

นอกจากนี้ยังมีความกังวลปัจจัยในประเทศที่มีรายงานข่าวว่ารัฐบาลอาจกลับไปล็อกดาวน์หากพบคนติดเชื้อโอไมครอนแม้เพียงคนเดียว อีกทั้งตลาดฯยังรับแรงกดดันจาก MSCI Rebalance ที่มีผลวันนี้ด้วย

อย่างไรก็ดี ให้ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน พ.ย.ในวันศุกร์นี้ และติดตามการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ด้วย

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (1 ธ.ค.) นักวิเคราะห์ กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นมาได้ก่อน หลังจากที่หลุดเส้น EMA 200 วันที่ 1,570 จุด ทำให้น่าจะมีจังหวะในการเด้งขึ้นมาได้ก่อน

ทั้งนี้พร้อมให้แนวรับ 1,560-1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,585-1,590 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 16,033.59 ล้านบาท ปิดที่ 132.00 บาท ลดลง 4.50 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 7,348.40 ล้านบาท ปิดที่ 59.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

EA มูลค่าการซื้อขาย 5,229.72 ล้านบาท ปิดที่ 82.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

SCC มูลค่าการซื้อขาย 5,022.18 ล้านบาท ปิดที่ 372.00 บาท ลดลง 9.00 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 4,823.44 ล้านบาท ปิดที่ 113.00 บาท ลดลง 4.00 บาท

อนึ่งเมื่อวันที่ 27 พ.ค.2564 มีรายงานการซื้อขายหลักทรัพย์บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC บนกระดานรายใหญ่ (BIG LOT) จำนวน 9 รายการ โดยมีปริมาณหุ้นจำนวน 110 ล้านหุ้น