SET ปิดเช้ารีบาวด์ 5 จุด รับแรงซื้อกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น
SET เช้าปิดรีบาวด์ 5 จุด รับแรงซื้อกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น 5% ตั้งแต่ต้นปี แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ให้แนวรับที่ 1,650, 1,642 จุด แนวต้านที่ 1,660 , 1,666 จุด
10 หุ้นดันดัชนีเช้านี้
ดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,657.94 จุด เพิ่มขึ้น 4.91 จุด (+0.30%) มูลค่าการซื้อขายราว 51,749.07 ล้านบาท
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้จากเทคนิเคิลรีบาวด์ แต่ยังมีปัจจัยกดดันทั้งในและต่างประเทศ โดยปัจจัยในประเทศมาจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดโอมิครอนพุ่งสูงขึ้น และมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามการคาดการณ์ของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาของโรคโควิด-19 ที่มีโอกาสจำนวนผู้ติดเชื้อขึ้นไปแตะ 1 หมื่นคน/วัน และการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือศบค.ชุดใหญ่ในวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับโซนสีในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากวานนี้ก.สาธารณสุขได้เพิ่มระดับการเตือนเป็นระดับที่ 4 Considerable (ปิดสถานที่เสี่ยง)กดดันหุ้นกลุ่ม Reopening Play และมีการขายทำกำไรออกมาก่อน
ส่วนปัจจัยต่างประเทศ ยังคงเป็นเรื่องความกังวลดอกเบี้ยปรับขึ้นเร็วกว่าคาด จากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด รวมทั้งระบุว่าจะปรับลดขนาดงบดุลบัญชี (Balance Sheet) ทันทีที่ขึ้นดอกเบี้ย ขณะเดียวกันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐก็พุ่งขึ้นมาที่ 1.75% ทำให้ต้นทุนการเงินสูงขึ้นกดดันหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยตลาดหุ้น Nasdaq และตลาดหุ้นเอเชียเหนือก็ลดลงเพราะมีส่วนใหญ่เป็นหุ้นเทคโนโลยี
อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยบวกจาก Fund Flow ไหลเข้ามาตั้งแต่สิ้นปี 2564 โดยหุ้นกลุ่มธนาคาร กลุ่มพลังงาน ได้รับประโยชน์สูงสุด รวมทั้งราคาน้ำมันพุ่งขึ้น 5% ตั้งแต่ต้นปี
โดยรวมตลาดมีโอกาสปรับฐานลงต่อ จาก 2 ปัจจัยกดดันตลาด คาดว่าในช่วงบ่ายแกว่งตัวบวกลบได้ สลับแรงขายทำกำไร โดยหากช่วงบ่ายดาวน์โจนส์ฟิวเจอร์สเป็นลบ ยุโรปเปิดลบตลาดก็ปรับลงได้ แต่ถ้าดาวน์โจนส์ฟิวเจอร์สเป็นบวก ก็มีโอกาสปิดบวกได้ รวมทั้งติดตามนักลงทุนต่างชาติจะขายต่อจากวานนี้ ก็จะมีผลให้ตลาดปรับตัวลงจากที่ ดัชนี SET ขึ้นไปสูงสุด 1,680 จุด มีโอกาสปรับลง 3-5% มาแถวๆ 1,620-1,630 จุด
พร้อมให้แนวรับที่ 1,650 , 1,642 จุด แนวต้านที่ 1,660 , 1,666 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,494.06 ล้านบาท ปิดที่ 142.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 2,255.34 ล้านบาท ปิดที่ 98.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,017.96 ล้านบาท ปิดที่ 123.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,769.35 ล้านบาท ปิดที่ 124.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,703.30 ล้านบาท ปิดที่ 219.00 บาท ลดลง 2.00 บาท