SET ปิดเช้ารีบาวด์ 13 จุด รับแรงหนุนกลุ่มเปิดเมือง-โรงกลั่น-กำไรบจ. Q1 ดีกว่าคาด
SET ปิดเช้ารีบาวด์ 13 จุด รับแรงหนุนกลุ่มเปิดเมืองหลังศบค.ผ่อนคลายมาตรการวันนี้ส่งผลคาดหวังท่องเที่ยวครึ่งปีหลังฟื้นหนุนเศรษฐกิจโต และกำไรของบจ.ไตรมาส 1/65 รวม 2.8 แสนลบ. ออกมาดีกว่าคาด
10 หุ้นดันดัชนีเช้านี้
ดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,618.77 จุด เพิ่มขึ้น 12.79 จุด (+0.80%) มูลค่าการซื้อขายราว 32,776 ล้านบาท
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้รีบาวด์สอดคล้องตลาดภูมิภาค หลังตอบรับปัจจัยเสี่ยงไปพอสมควรแล้วเป็นจังหวะดีดกลับ แต่ยังไม่มีปัจจัยสำคัญชัดเจน โดยตลาดยังกังวลเรื่องเงินเฟ้อสหรัฐและเกิด Panic การปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังประธานเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้น 0.5% จำนวน 2-3 ครั้ง
ส่วนปัจจัยในประเทศวันนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดใหญ่ผ่อนคลายมาตรการหลายด้านคาดหวังว่าการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นโตได้มากในครึ่งปีหลังจะช่วยทำให้เศรษฐกิจบ้านเราเติบโตได้ดี อีกทั้งผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 1/2565 มีกำไรรวม 2.8 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 10% จากงวดเดียวกันของปีก่อนดีกว่าที่ตลาดประเมิน เป็นส่วนหนุนให้เศรษฐกิจไทยแข็งแรงขึ้น
นอกจากนี้จีนเตรียมปลดล็อกดาวน์เซี่งไฮ้ และมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก็ส่งผลดีต่อไทยทางอ้อมในฐานะที่จีนเป็นคู่ค้าสำคัญของไทย
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดน่าจะสามารถยืนเหนือระดับ 1,600 จุด โดยให้เป็นแนวรับที่ 1,600 จุด แนวต้าน 1,630 จุด
อย่างไรก็ดีราคาหุ้นกลุ่มโรงกลั่นปรับตัวขึ้นตอบรับปัจจัยบวกจากโรงกลั่นเกาหลีใต้ “ S-Oil Onsan” เกิดเพลิงไหม้ ทั้งนี้คาดอาจทำให้ supply เกิดความตึงตัวเพิ่มขึ้น
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PLUS มูลค่าการซื้อขาย 3,225.68 ล้านบาท ปิดที่ 6.05 บาท เพิ่มขึ้น 1.55 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,920.94 ล้านบาท ปิดที่ 27.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,277.79 ล้านบาท ปิดที่ 64.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 823.91 ล้านบาท ปิดที่ 12.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 711.04 ล้านบาท ปิดที่ 68.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท