SET ปิดเช้าลบ 3 จุด นักลงทุนรอตัวเลข “เงินเฟ้อ” สหรัฐ คาดสูงกว่า 8.60%
SET ปิดเช้าลบ 3 จุด นักลงทุนรอตัวเลข “เงินเฟ้อ” สหรัฐ คาดสูงกว่า 8.60% ช่วงบ่ายคาด Sideway down ให้แนวรับแรก 1,550 จุด ถัดไป 1,544 จุด ส่วนแนวต้านแรก 1,560 และ 1,563 จุด
10 หุ้นกดดัชนีเช้านี้
ดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,555.14 จุด ลดลง 2.73 จุด (-0.18%) มูลค่าการซื้อขายราว 23,044 ล้านบาท
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลดลงเล็กน้อยในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นเอเชีย ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่น ตอบรับปัจจัยเดิมคือความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยจากการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาดีกว่าคาด
ลอย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยมีแรงซื้อกลับหุ้นแบงก์ นำโดย SCB เทรดคึกคักจากเก็งผลกำไรการขาย บลจ.ไทยพาณิชย์ และการเลื่อนดีล Bitkub ที่อาจทำให้ใช้เงินลงทุนน้อยลงหรืออาจยกเลิกดีล รวมทั้งกลุ่มแบงก์ใกล้จะประกาศงบการเงินไตรมาส 2/65 ทำให้มีการเก็งกำไรเข้ามา โดย ซีจีเอสฯคาดว่าผลดำเนินการทั้งกลุ่มแบงก์จะเติบโต 20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 3% จากไตรมาสก่อน รวมทั้งมีแรงซื้อกลุ่มโรงไฟฟ้าหลังมีกระแสข่าวคณะกรรมการกำกับพลังงาน (กกพ.) จะปรับขึ้นค่าเอฟที ด้วยแรงซื้อดังกล่าวช่วยพยุงตลาดหุ้นไทยไว้ได้ระดับหนึ่ง
ทั้งนี้แต่ปริมาณการซื้อขายน้อย และค่าเงินบาทยังนิ่ง คาดว่าชะลอลงทุนเพื่อรอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่จะประกาศในวันพุธนี้ (13 ก.ค.) โดยตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ 8.8% มากกว่าเดือนก่อนที่อยู่ในระดับ 8.6% ซึ่งหากเป็นตามคาดตลาดหุ้นจะปรับตัวลงอีกครั้ง แต่ถ้าออกมาต่ำกว่านั้นก็จะช่วยให้ตลาดฟื้นขึ้นมาได้ นอกจากนั้น ยังรอติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) 21 ก.ค. และ ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) 26-27 ก.ค.
สำหรับบ่ายนี้ แนวโน้มการลงทุนคาดว่าดัชนีจะแกว่ง sideway down ปริมาณซื้อขายน้อย และยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาเพิ่มเติม แนะติดตามดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่ขณะนี้ปรับตัวลง และตลาดหุ้นยุโรปที่คาดเปิดลบ กังวลเศรษฐกิจสหรัฐที่เร่งขึ้นดอกเบี้ย ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) พุ่งเหนือ 3% พร้อมให้แนวรับแรกที่ 1,550 จุด แนวรับถัดไป 1,544 จุด ส่วนแนวต้านแรก 1,560 และ 1,563 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,486.41 ล้านบาท ปิดที่ 160.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,335.11 ล้านบาท ปิดที่ 146.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,116.96 ล้านบาท ปิดที่ 101.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 748.69 ล้านบาท ปิดที่ 131.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 583.88 ล้านบาท ปิดที่ 70.25 บาท ลดลง 0.50 บาท