ฟันด์โฟลว์ไหลเข้า “บลูชิพ” ดัน SET ปิดพุ่ง 17 จุด
SET ปิดพุ่ง 17 จุด รับแรงหนุนฟันด์โฟลว์ไหลเข้า “บลูชิพ” หลังบาทแข็งค่า แนวโน้มพรุ่งนี้แกว่งออกข้าง ให้แนวรับ 1,580 จุด และแนวต้าน 1,600 จุด
10 หุ้นดันดัชนีเช้านี้
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ระดับ 1,593.24 จุด เพิ่มขึ้น 16.83 จุด (+1.07%) มูลค่าการซื้อขายราว 82,256.81 ล้านบาท
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นตอบรับปัจจัยบวกผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด และเชื่อว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ลดลงในการประชุมที่เหลืออีก 3 ครั้งก่อนสิ้นปี โดยคาดว่าจะปรับขึ้น 0.5%, 0.25% และ 0.25% ตามลำดับ หนุนให้ตลาดกล้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น
สำหรับแนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้ คาดดัชนีฯ แกว่งตัวออกข้าง ให้แนวรับไว้ที่ 1,580 จุด และแนวต้าน 1,600 จุด
นอกจากนี้นักวิเคราะห์ กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นไปได้ค่อนข้างดี โดยได้รับแรงหนุนจากเฟดปรับนโยบายการเงิน และปรับขึ้นดอกเบี้ยตามคาด และมีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ คาดหวังว่าผลประกอบการออกมาดีเช่นเดียวกับ DELTA
ขณะเดียวกันยังมีแรงเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 2/65 ของกลุ่มค้าปลีกที่มีฐานต่ำในปีก่อน ทั้ง CPN CRC และ BJC นอกจากยังมีแรงซื้อกลุ่มโรงไฟฟ้าจากปัจจัยหนุนจากค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าได้บ้าง และทางการเตรียมปรับขึ้นค่า FT ด้วย
ทั้งนี้ เงินบาทเริ่มเห็นสัญญาณกลับมาแข็งค่ามาอย่างรวดเร็ว จากเงินทุนต่างชาติยังมีทิศทางไหลเข้าต่อเนื่อง หลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์ GDP ไตรมาส 2/65 จะเติบโตได้กว่า 3% และยังคาดหวังเศรษฐกิจจะฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง พรุ่งนี้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสแกว่งชะลอลง หลังจากวันนี้ปรับขึ้นมามากแล้ว โดยให้แนวรับที่ 1,585 จุด และแนวต้าน 1,605-1,610 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 7,032.96 ล้านบาท ปิดที่ 510.00 บาท เพิ่มขึ้น 36.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,263.08 ล้านบาท ปิดที่ 59.75 บาท ลดลง 1.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,119.75 ล้านบาท ปิดที่ 35.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,939.07 ล้านบาท ปิดที่ 145.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,800.85 ล้านบาท ปิดที่ 159.50 บาท ลดลง 3.00 บาท