SET ปิดเช้าลบ 2 จุด ไร้ปัจจัยใหม่-รอผลประชุม “เฟด” สัปดาห์หน้า

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ คล้ายกันกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน รวมถึงแม้ว่าวันนี้รัฐบาลจะมีการประกาศให้โรคโควิด-19 จากโรคติดต่ออันตราย เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง แต่ปัจจัยดังกล่าวตลาดก็ได้รับรู้ข่าวไปพอสมควรแล้ว และ SET ก็ปรับตัวขึ้นมาจากระดับต่ำสุดรอบนี้ถึงราว 7% แล้วก็อาจเห็นการพักตัวลงมาบ้าง

สำหรับแนวโน้มตลาดช่วงบ่าย คาดว่าดัชนีฯ ยังคงแกว่งในกรอบแคบต่อ ให้แนวรับที่ 1,627 จุด แนวต้านที่ 1,640 จุด

อย่างไรก็ดีแนะติดตามถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมแจ็คสันโฮลระหว่างวันที่ 25-27 ส.ค.นี้ เกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยของเฟด เดิมตลาดฯคาดว่าจะปรับขึ้นครั้งหน้า 0.05% ถ้าหากการแถลงออกมาไม่ใช่โทนที่ร้อนแรงก็จะสอดคล้องกับที่ตลาดคาด แต่หากโทนออกมาดูร้อนแรงก็จะส่งผลเชิงลบต่อตลาด อีกทั้งยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจในต่างประเทศในสัปดาห์ด้วย

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,929.50 ล้านบาท ปิดที่ 157.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

BH มูลค่าการซื้อขาย 1,990.15 ล้านบาท ปิดที่ 191.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,348.45 ล้านบาท ปิดที่ 155.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,334.96 ล้านบาท ปิดที่ 14.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท

TGE มูลค่าการซื้อขาย 1,087.27 ล้านบาท ปิดที่ 1.94 บาท ลดลง 0.06 บาท