SET ปิดเช้าลบ 14 จุด แรงขายกลุ่มพลังงาน-“เฟด” กดดัน

นายเบญจพล สุทธิ์วนิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย เวลท์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับลงแรงตามภูมิภาค มองตลาดมี Downside มาก เนื่องจากนักลงทุนกังวลการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางแต่ละประเทศ โดยคาดว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุม 8 ก.ย.และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประชุม 20-21 ก.ย.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรอบนี้ 0.75% ทำให้มีแรงเทขายสินทรัพย์ทั่วโลก

โดยล่าสุดนางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ ระบุว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้อยู่เหนือระดับ 4% ภายในต้นปี 66 และคงไว้ระยะหนึ่ง นอกจากนี้ ยังส่งสัญญาณว่าเฟดไม่มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า มองว่าเฟดยังขึ้นดอกเบี้ยอีก 1.5% ปีนี้ จากปัจจุบัน 2.5% และปีหน้าจะไม่มีการปรับลดดอกเบี้ยจากเดิมที่ตลาดเคยคาดว่าจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยในไตรมาส 1/66 โดยดอกเบี้ยในปี 65 จะอยู่ที่ 3.5%

นอกจากนี้ สินทรัพย์ปลอดภัย อาทิ ทองคำ พันธบิตร ก็ถูกเทขายออกเช่นกัน เพราะเดือน ก.ย.เฟดจะเร่งปรับลดขนาดงบดุล (QT) เป็น 95,000 ล้านเหรียญสหรัฐ/เดือน จากเดิมเฉลี่ย 47,500 ล้านเหรียญสหรัฐ/เดือน การเพิ่มขนาด QT กระทบสภาพคล่องทั้งหมดในตลาดทุนและตลาดเงิน

อีกทั้งประกอบกับราคาพลังงานเริ่มลดลงทั้ง LNG และน้ำมัน ส่วนถ่านหินยังทรงตัว ทำให้เกิดแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งมีน้ำหนัก 1 ใน 4 ของตลาดหุ้นไทย แต่ยังมีปัจจัยบวกจากนักลงทุนต่างชาติยังซื้อต่อเนื่อง โดยวานนี้ (31 ส.ค.) ซื้อสุทธิ 3,117.64 ล้านบาท แม้เงินบาทอ่อนค่า เพราะมองว่าตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยลบน้อยกว่าประเทศอื่น

สำหรับแนวโน้มช่วงบ่าย นายเบญจพล คาดว่า ตลาดฯ น่าจะปรับลงต่อ แนะจับตาตลาดหุ้นยุโรป โดยให้แนวรับแรกที่ 1,625 จุด ถัดไป 1,610 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,640 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

TLI มูลค่าการซื้อขาย 2,763.69 ล้านบาท ปิดที่ 16.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,488.15 ล้านบาท ปิดที่ 29.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,242.77 ล้านบาท ปิดที่ 14.30 บาท ลดลง 0.20 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,832.64 ล้านบาท ปิดที่ 152.50 บาท ลดลง 1.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,735.27 ล้านบาท ปิดที่ 36.75 บาท ลดลง 0.75 บาท