SET ปิดร่วง 27 จุด ตามตปท. แพนิก “เอสวีบี” กดดันหุ้นแบงก์ ลุ้นพรุ่งนี้รีบาวด์หลังลงลึก
SET ปิดร่วง 27 จุด ตามตลาดต่างประเทศ รับข่าวเชิงลบ SVB กดดันหุ้นแบงก์ไทย ขณะที่แนวโน้มพรุ่งนี้ลุ้นฟื้นตัวหลังรับปัจจัยลบไปพอสมควรแล้ว และตลาดหุ้นไทยยังมีพื้นฐานแข็งแกร่ง ให้กรอบแนวรับ 1,570 จุด และแนวต้าน 1,590 จุด
10 หุ้นกดดัชนีวันนี้
ดัชนีตลาดปิดวันนี้ที่ 1,573.07 จุด ลดลง 26.58 จุด (-1.66%) มูลค่าการซื้อขาย 79,662.39 ล้านบาท
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ร่วงลงรับ Sentiment เชิงลบจากซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ซึ่งเป็นธนาคารที่ปล่อยกู้ให้กับธุรกิจสตาร์ทอัพในกลุ่มเทคโนโลยี ปิดกิจการจากการประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าอาจเกิดภาวะเดียวกันกับธนาคารอื่นๆ อีกหรือไม่ ทำให้มีแรงขายในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ของไทยออกมาอย่างหนัก ทั้ง KBANK, BBL, SCB ขณะเดียวกันนักลงทุนยังรอดูตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ (14 มี.ค.66) ด้วย
ขณะที่ล่าสุดช่วงท้ายตลาดมีรายงานข่าวว่าหุ้นธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิค แบงก์ร่วงลงกว่า 60% ในการซื้อขายก่อนที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะเปิดทำการในวันนี้ ถูกกดดันจากการปิดกิจการซิกเนเจอร์ แบงก์ และ SVB โดยเฟิร์สท์ รีพับลิค แบงก์ เข้าถึงสภาพคล่องได้กว่า 7 หมื่นล้านดอลลาร์หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศโครงการ Bank Term Funding Program
สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดดัชนีมีโอกาสฟื้นตัว หลังนักลงทุนรับรู้ปัจจัยลบดังกล่าวไปค่อนข้างมากแล้ว และพื้นฐานตลาดหุ้นไทยยังแข็งแกร่ง รวมถึงนักลงทุนคลายกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยแรง โดยให้น้ำหนักว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% จากเดิมคาด 0.5% ในการประชุมเดือนมี.ค.นี้ สืบเนื่องจากเหตุการณ์ SVB ให้กรอบแนวรับ 1,570 จุด และแนวต้าน 1,590 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 7,411.74 ล้านบาท ปิดที่ 128.00 บาท ลดลง 8.00 บาท
BTS มูลค่าการซื้อขาย 2,685.35 ล้านบาท ปิดที่ 6.90 บาท ลดลง 0.65 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,593.78 ล้านบาท ปิดที่ 99.75 บาท ลดลง 2.75 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,580.84 ล้านบาท ปิดที่ 67.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,569.28 ล้านบาท ปิดที่ 978.00 บาท ลดลง 14.00 บาท