แรงขาย “หุ้นการเมือง” กด SET ปิดเช้าลบ 11 จุด จับตาตั้งรัฐบาลสูตร “ก้าวไกล”
SET ปิดเช้าลดลง 11 จุด จากความกังวลการเมืองในประเทศ จับตาสูตรตั้งรัฐบาลที่มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ ประกอบกับได้รับแรงกดดันจากแรงขายหุ้นที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองและนโยบายรัฐบาลใหม่ คาดช่วงบ่ายแกว่งแดนลบต่อ แนวต้าน 1,560 จุด แนวรับ 1,540 จุด
10 หุ้นกดดัชนีเช้านี้
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,550.85 จุด ลดลง 10.50 จุด (-0.67%) มูลค่าการซื้อขาย 38,658 ล้านบาท
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาปรับลง ส่วนหนึ่งมาจากความกังวลว่าจะสามารถตั้งรัฐบาลใหม่ได้หรือไม่ จับตาสูตรการจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำหลังชนะการเลือกตั้งแบบเหนือความคาดหมาย
ขณะเดียวกัน มีแรงขายออกมาในหุ้นขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง และนโยบายของพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลที่จะเข้ามาส่งผลกระทบ โดยเฉพาะนโยบายลดค่าไฟที่กระทบโดยตรงต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า แต่ยังมีปัจจัยหนุนจาก GDP ของไทยไตรมาสแรกที่ออกมาดีกว่าคาด ทำให้หุ้นกลุ่มแบงก์ใหญ่ดีดขึ้นช่วยพยุงดัชนีไว้ระดับหนึ่ง
ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียในช่วงเช้าเคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน
แนวโน้มในช่วงบ่ายคาดตลาดอาจยังแกว่งตัวในแดนลบต่อ รอความชัดเจนของสูตรการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ โดยต้องติดตามการออกมาให้ข่าวของแต่ละพรรคการเมืองว่าจะมีท่าทีรวมตัวกันอย่างไร ให้แนวต้าน 1,560 จุด แนวรับ 1,540 จุด
ขณะที่ นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย เปิดเผยว่า SET ปรับฐานแรง มองว่าส่วนหนึ่งเป็นผลจากแรง Sell On Fact หลังนักลงทุนทราบผลการเลือกตั้ง โดยตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นมา 2.8% จากจุดต่ำสุดเดิม เชื่อว่า Price In ประเด็นบวกเลือกตั้งไปพอสมควรแล้ว รวมถึงแรงขายในหุ้นที่ผลประกอบการในไตรมาส 1/2566 ย่ำแย่ (CBG, JMART, SINGER)
ขณะที่กลุ่มโรงไฟฟ้าปรับลงส่วนหนึ่ง เป็นเพราะว่าพรรคก้าวไกลมีนโยบายในการช่วยประชาชนประหยัดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้า ส่วนปัจจัยกดดันอื่นๆ ได้แก่ การที่สหรัฐเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มมีปัญหา สะท้อนผ่านวันศุกร์ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยมิชิแกน รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ต่ำกว่าคาดการณ์ และเป็นความเชื่อมั่นที่ต่ำสุดในรอบ 12 ปี โดยสัปดาห์นี้นักลงทุนจะรอติดตามยอดค้าปลีกของสหรัฐ หากรายงานต่ำกว่าคาดการณ์ไว้จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐ
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,258.26 ล้านบาท ปิดที่ 49.25 บาท ลดลง 3.25 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,792.75 ล้านบาท ปิดที่ 137.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,498.77 ล้านบาท ปิดที่ 163.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,459.76 ล้านบาท ปิดที่ 66.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,355.45 ล้านบาท ปิดที่ 73.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง