SET ปิดเช้าลบ 10 จุด เซ่นการเมืองไม่นิ่ง นักลงทุนแห่ขายลดความเสี่ยง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ 3 ส.ค. 66 ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบมาปิดช่วงเช้าที่ระดับ 1,539.94 จุด ลบ 10.34 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 23,514.04 ล้านบาท รับ sentiment เชิงลบ จากกระแสข่าวการเมือง รายงานข่าวแจ้งว่า นายทักษิณ ชินวัตร ตัดสินใจขอเลื่อนกำหนดการเดินทางกลับประเทศไทย จากเดิมวันที่ 10 ส.ค.นี้ ออกไปก่อน โดยเลื่อนไปจนกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

โดยตามข่าวลือว่าจะสัมพันธ์กับการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป ที่ลื่อว่าพรรคเพื่อไทยประกาศจับขั้วใหม่ ได้แก่ พรรคภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ประชาชาติ ชาติพัฒนากล้า ประชาธิปัตย์ และพรรคเล็กอื่นๆ ขณะที่เป็นฝ่ายค้านจะมี มีพรรคก้าวไกล พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ไทยสร้างไทย

ขณะเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญ เลื่อนการพิจารณารับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดินที่ขอให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213 กรณีรัฐสภามีมติตีความว่าการเสนอชื่อบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบในรอบที่ 2 เป็นญัตติทั่วไป ต้องห้ามนำเสนอญัตติซ้ำอีกตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ 41 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยกำหนดนัดพิจารณาคำร้องนี้ในวันที่ 16 ส.ค.66 เวลา 09:30 น.

เนื่องจากเห็นว่าคำร้องมีประเด็นสำคัญที่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและมีประเด็นเชิงหลักการการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่จะต้องพิจารณาเพิ่มเติม และให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญศึกษาข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญต่อไป

สำหรับคำขอให้กำหนดมาตรการหรือวิธีการชั่วคราวก่อนการวินิจฉัยให้รอสั่งในคราวเดียวกันกับการพิจารณาสั่งคำร้อง พร้อมทั้งขอให้ผู้ร้องระบุสถานะบุคคลของคณะผู้ร้องเรียนที่ 3 ทุกรายว่า เป็นประชาชนหรือสมาชิกรัฐสภา โดยให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันอังคารที่ 15 ส.ค.66

เมื่อศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีความชัดเจนของปมการโหวตนายกพิธารอบ 2 โดยมีการนัดพิจารณาคำร้องอีกครั้งในวันที่ 16 ส.ค. 66 จึงทำให้ล่าสุด นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ออกมาระบุว่า เลื่อนโหวตนายกฯรอบที่ 3 ตามที่นัดประชุมรัฐสภาวันที่ 4 สิงหาคม ต้องเลื่อนออกไปก่อนไม่มีกำหนด จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ยืนไว้ก่อนหน้า

ขณะที่ นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง เป็นไปตามบรรยากาศตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ไม่ค่อยดีโดยปรับลงถ้วนหน้า กังวลปัจจัยฟิทช์เรทติ้งส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ขณะเดียวกันปัจจัยในประเทศ แม้ซึมซับข่าวการเมืองไปในระดับหนึ่งแล้วในประเด็นที่พรรคก้าวไกลไม่ได้เป็นรัฐบาล และจะมีการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วเกิดขึ้น แต่ยังกังวลว่าอาจเกิดม็อบขึ้นมาหรือไม่ และการจัดตั้งรัฐบาลยืดเยื้ออาจกระทบต่อเศรษฐกิจ

โดยแนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดฯ น่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบต่อเนื่อง จากไร้ปัจจัยบวกใหม่เข้ามาสนับสนุน ให้แนวรับไว้ที่ 1,535 จุด และแนวต้าน 1,546 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,235.53 ล้านบาท ปิดที่ 123.50 บาท ลดลง 2.00 บาท

KCG มูลค่าการซื้อขาย 1,142.71 ล้านบาท ปิดที่ 8.45 บาท ลดลง 0.05 บาท

BDMS มูลค่าการซื้อขาย 824.19 ล้านบาท ปิดที่ 28.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 715.53 ล้านบาท ปิดที่ 223.00 บาท ลดลง 3.00 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 628.52 ล้านบาท ปิดที่ 160.00 บาท ลดลง 2.50 บาท