SET รีบาวด์ 17 จุด ฟันด์โฟลว์ไหลเข้า สัปดาห์หน้าผันผวน-ไร้ปัจจัยใหม่หนุน

SET ปิดบวก 17 จุด ตามต่างประเทศ รับแรงซื้อกลับหุ้น “บิ๊กแคป” หลังบอนด์ยีลด์ชะลอตัว แนวโน้มสัปดาห์หน้าผันผวน ขึ้นอยู่ประเด็นความคืบหน้าของสงครามตะวันออกกลาง-บอนด์ยีลด์ ขณะที่ในประเทศไร้ปัจจัยใหม่หนุน แนะจับตาบอนด์ยีลด์สหรัฐและในประเทศ


10 หุ้นดันดัชนีวันนี้

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,388.23 จุด เพิ่มขึ้น 17.01 จุด (+1.24%) มูลค่าซื้อขาย 41,247.37 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,388.23 จุด เพิ่มขึ้น 17.01 จุด (+1.24%) มูลค่าซื้อขาย 41,247.37 ล้านบาท

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ RHBS เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดีดกลับขึ้นมาได้ดีขึ้นในช่วงท้ายภาคบ่าย สอดคล้องตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่มีทิศทางบวก เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) อายุ 10 ปีลดลง จากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐดีกว่าที่คาดการณ์

ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่กังวลว่าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สัปดาห์หน้าอาจส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยนานกว่าคาด เมื่อบอนด์ยีลด์ชะลอตัวลง จึงเป็นสัญญาณบวกให้กับตลาดหุ้นได้เล็กน้อย รวมทั้งสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง อิสราเอลยังไม่โจมตีในภาคพื้นดินที่ฉนวนกาซา จึงทำให้ยังไม่ลุกลาม

สำหรับหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่บอนด์ยีลด์ชะลอตัวลง อาทิ กลุ่มโรงไฟฟ้า การเงิน รวมทั้งหุ้นขนาดใหญ่ที่ราคาตัวลงมากวันนี้ฟื้นตัวขึ้นมาได้รับแรงซื้อกลับ ในขณะที่กลุ่มค้าปลีกยังไม่ฟื้นมากนัก เนื่องจากนโยบายเงินดิจิทัลยังไม่ชัดเจน

ส่วนแนวโน้มตลาดสัปดาห์หน้าสถานการณ์ตลาดจะขึ้นอยู่ประเด็นความคืบหน้าของสงครามในตะวันออกกลาง และบอนด์ยีลด์ หากบอนด์ยีลด์แกว่งอยู่ในช่วง 4.8-5% คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นไทยจะแกว่ง 1,370-1,400 จุด แต่หากทะลุ 5% คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยอาจลงไปที่แนวรับ 1,350 จุด และหากต่ำกว่า 4.8% ลงไปอีก ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสขึ้นไปที่ 1,430 จุด แนะนำหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า การเงิน และปิโตรเคมี

ทั้งนี้ ภายในประเทศยังไร้ปัจจัยใหม่ แนะนำติดตามทั้งบอนด์ยีลด์สหรัฐและในประเทศ โดยบอนด์ยีลด์ของไทยไม่แกว่งผันผวนมากนัก จากกระแสข่าวการลดขนาดแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ทำให้แกว่งตัวเบาลง จึงต้องติดตามความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตอีกครั้งในสัปดาห์หน้า

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,055.74 ล้านบาท ปิดที่ 55.00 บาท ลดลง 0.25 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,997.53 ล้านบาท ปิดที่ 132.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,785.23 ล้านบาท ปิดที่ 100.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,600.86 ล้านบาท ปิดที่ 33.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,418.50 ล้านบาท ปิดที่ 158.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

Back to top button