แรงขายลดเสี่ยงกด SET ปิดลบ 2 จุด พรุ่งนี้เสี่ยงผันผวน หลังไร้ปัจจัยใหม่หนุน
SET ปิดลบ 2 จุด นักลงทุนขายหุ้นลดเสี่ยงหลังงบ “บจ.” ไตรมาส 3/66 ออกมาต่ำคาด แนวโน้มพรุ่งนี้ผันผวน ไร้ปัจจัยใหม่หนุน แนะจับตาเงินเฟ้อสหรัฐ วางกรอบแนวรับ 1,380 จุด และแนวต้าน 1,400 จุด
10 หุ้นกดดัชนีวันนี้
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,387.13 จุด ลดลง 2.44 จุด (-0.18%) มูลค่าซื้อขาย 46,157.93 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,387.13 จุด ลดลง 2.44 จุด (-0.18%) มูลค่าซื้อขาย 46,157.93 ล้านบาท
นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ติดลบเล็กน้อย ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาควันนี้ค่อนข้างผสมผสาน โดยกลุ่มเอเชียเหนือปรับตัวขึ้นได้ดี แต่กลุ่ม TIP ทั้งอินโดนีเซีย ไทย และฟิลิปปินส์ อ่อนตัวลงมา
โดยตลาดหุ้นไทยได้รับแรงกดดันจากการขาย (Sell on fact) หุ้นที่ประกาศงบไตรมาส 3/66 ออกมาต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ อาทิ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ที่ร่วงลงไปถึง 16% และ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ลงไปกว่า 10%
ขณะที่วันนี้นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาฯ หารือหน่วยงานตลาดทุน โดยแถลงออกมา 3 ประเด็น ประกอบด้วย การยืนยันข้อมูลว่าไม่มีการขายชอร์ตหุ้นเปล่า (Naked Short Sell) ในตลาดหุ้นและจะยกระดับความเข้มข้นของมาตรการกำกับดูแลขึ้นอีก ส่วนภาครัฐจะเรียกความเชื่อมั่นผ่านการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ GDP โตตามที่หลายฝ่ายคาดหวัง และกระทรวงการคลังนัดหารือกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ถึงแนวทางในการกระตุ้นตลาดทุน และคาดการณ์ว่าจะออกกองทุน ESG Fund ในรูปแบบการลงทุนระยะยาวคล้ายกับกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LFT) ที่มีมาตรการภาษีสนับสนุน ซึ่งต้องติดตามรายละเอียดต่อไป
สำหรับแนวโน้มพรุ่งนี้คาดตลาดยังผันผวนเนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา นักลงทุนให้น้ำหนักไปที่การติดตามการตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ (14 พ.ย.) ขณะที่ในประเทศ ติดตามวงหารือกระทรวงการคลัง และ FETCO คาดว่าจะนำเสนอรูปแบบของกองทุนต่าง ๆ ที่จะมีขึ้นหลังจากที่ SSF จะหมดอายุมาตรการภาษีในปีหน้า หากมีมาตรการหรือรูปแบบกองทุนใหม่ ๆ เข้ามาอาจจะเป็น Sentiment เชิงบวก
นอกจากนี้ ยังเป็นช่วงสุดท้ายของการประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนอาจเห็นความผันผวนของหุ้นรายตัว โดยให้กรอบแนวรับ 1,380 จุด และแนวต้าน 1,400 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 3,200.96 ล้านบาท ปิดที่ 25.25 บาท ลดลง 1.50 บาท
COM7 มูลค่าการซื้อขาย 2,603.87 ล้านบาท ปิดที่ 21.80 บาท ลดลง 4.20 บาท
JMT มูลค่าการซื้อขาย 2,376.83 ล้านบาท ปิดที่ 24.10 บาท ลดลง 2.90 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,199.26 ล้านบาท ปิดที่ 154.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
JMART มูลค่าการซื้อขาย 1,783.95 ล้านบาท ปิดที่ 14.10 บาท ลดลง 1.20 บาท