แรงซื้อ “กลุ่มแบงก์” ดัน SET ปิดบวก 5 จุด ลุ้น “January Effect” ดันหุ้นไทยไปต่อ

SET ปิดบวก 5 จุด วอลุ่มหนาแน่น รับเม็ดเงินกองทุนลดภาษีไหลเข้าโค้งท้ายปี นำโดยกลุ่มแบงก์ ส่วนปี 67 มองเป้าดัชนี SET ที่ 1,640 จุด ลุ้น January Effect รับเศรษฐกิจไทยฟื้น โดยให้แนวต้าน 1,460 จุด แนวรับ 1,380 จุด


10 หุ้นดันดัชนีวันนี้

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (28 ธ.ค. 66) ปิดที่ 1,415.85 จุด เพิ่มขึ้น 5.42 จุด (+0.38%) มูลค่าซื้อขาย 47,793.66  ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (28 ธ.ค. 66) ปิดที่ 1,415.85 จุด เพิ่มขึ้น 5.42 จุด (+0.38%) มูลค่าซื้อขาย 47,793.66  ล้านบาท

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันสุดท้ายของปีดีดขึ้นมาปิดบวกได้ มูลค่าการซื้อขายกลับมาหนาแน่นกว่าช่วงต้นสัปดาห์ เก็งรับเม็ดเงินกองทุนลดภาษี รวมถึง TESG ไหลเข้ามาในโค้งสุดท้าย โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ ซึ่งหุ้นกลุ่ม ESG มีผลต่อดัชนี 0.4%

อย่างไรก็ตาม ยังปัจจัยที่ต้องติดตามในวันพรุ่งนี้ (29 ธ.ค. 66) คือ สหรัฐเปิดเผยยอดขอรับสวัสดิการว่างงาน  ส่วนวันที่ 31 ธ.ค.จีนรายงานตัวเลข PMI ภาคการผลิตและนอกภาคการผลิต ในเดือนธ.ค.66

นอกจากนี้ ทิศทางตลาดหุ้นไทยปีหน้า ฝ่ายวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ให้เป้าดัชนี SET ที่ 1,640 จุด เชื่อกลับมาฟื้นตัวได้ตามภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ได้รับมีแรงหนุนจากภาคส่งออกกลับมาดี การบริโภคภายในประเทศ และการใช้จ่ายของภาครัฐ กำไรบริษัทจดทะเบียนปี 67 คาดโต 14% นอกจากนี้ มองดอกเบี้ยได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วทั้งสหรัฐและไทย ทำให้ภาวะ Derating P/E กดดันลดลง ในเดือนมกราคม คาดการณ์ SET จะฟื้นตัวได้ หรือ January Effect โดยในเดือนม.ค.67  ทั้งนี้ ให้กรอบแนวต้าน 1,460 จุด แนวรับ 1,380 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

BBL  มูลค่าการซื้อขาย 3,508.20 ล้านบาท ปิดที่ 156.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท

SCB  มูลค่าการซื้อขาย 2,624.91 ล้านบาท ปิดที่ 106.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

KBANK  มูลค่าการซื้อขาย 2,321.60 ล้านบาท ปิดที่ 135.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

DELTA  มูลค่าการซื้อขาย 2,028.01 ล้านบาท ปิดที่  88.00 บาท ลดลง 3.25 บาท

AOT  มูลค่าการซื้อขาย 1,996.90 ล้านบาท ปิดที่  59.75 บาท ลดลง 0.50 บาท

Back to top button