SET ปิดลบ 5 จุด แรงเทขายทำกำไร “ค้าปลีก” พรุ่งนี้เสี่ยงลงต่อ
SET ปิดลบ 5 จุด แรงขายทำกำไร นำโดยกลุ่ม JMART และกลุ่มค้าปลีก ขณะที่กลุ่มแบงก์ปรับตัวลง หลังกังวลการตั้งสำรอง แนะจับตาเงินเฟ้อสหรัฐคืนนี้ ส่วนแนวโน้มพรุ่งนี้คาดปรับตัวลงต่อ โดยให้กรอบแนวรับ 1,400 จุด แนวต้าน 1,420 จุด
10 หุ้นกดดัชนีวันนี้
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,408.24 จุด ลดลง 5.28 จุด (-0.37%) มูลค่าการซื้อขาย 35,536.61 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,408.24 จุด ลดลง 5.28 จุด (-0.37%) มูลค่าการซื้อขาย 35,536.61 ล้านบาท
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลง อ่อนแอกว่าตลาดภูมิภาค โดยตลาดหุ้นไทยมีแรงขายทำกำไรในหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่ตลาดมีความไม่มั่นใจในผลประกอบการ อาทิ หุ้นกลุ่ม บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART และกลุ่มค้าปลีก เช่น บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 , บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL และ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER
โดยกลุ่มค้าปลีกในช่วงที่ผ่านมามีแรงเก็งกำไรเชิงบวกจากการคาดการณ์ ผลดีจากมาตรการ Easy e-Reciept แต่มาตรการดังกล่าวต้องมีการพิจารณาช่วงที่ผลประกอบการดีจะเป็นไตรมาส 1/67 ขณะที่ไตรมาส 4/66 เป็นช่วงของการประกาศมาตรการ ทำให้ตลาดไม่สามารถคาดการณ์ว่าแนวโน้มไตรมาส 4/66 จะดีจริงหรือไม่ สะท้อนจากนักลงทุนที่จะซื้อช่วงปลายปี66 ส่วนหนึ่งอาจมีการชะลอการซื้อเพื่อมาซื้อช่วงต้นปี 67 แทน ทำให้วันนี้มีการปรับลดลงมากเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น
ขณะที่กลุ่มธนาคารปรับตัวลง หลังมีความกังวลในการตั้งสำรอง ทั้งธนาคารขนาดกลางและขนาดเล็กจากเรื่องราคารถยนต์มือสองที่ปรับลดลงแรง ทั้งนี้ นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจว่ากลุ่มธนาคารใหญ่ มีการปล่อยกู้ให้ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD หรือไม่ แม้ว่า ITD อาจจะสามารถเลื่อนจ่ายเงินต้นหุ้นกู้ แต่ในแง่ของธนาคารซึ่งเป็นผู้ปล่อยกู้อาจจะมีการตั้งสำรองบางส่วน ส่งผลให้ลดทอนปัจจัยเชิงบวกของกลุ่มธนาคารใหญ่ไป
สำหรับแนวโน้มตลาดในวันพรุ่งนี้ช่วงสั้นมองว่าโอกาสที่จะชะลอตัวลดลง ลดลงมาใกล้ระดับ 1,400 จุด ซึ่งน่าจะเป็นจุดที่ตลาดเริ่มตั้งหลัก โดยคืนนี้จะมีการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐซึ่งตลาดมองว่าตัวเลขน่าจะชะลอตัวลง อย่างไรก็ตามมองว่าเงินเฟ้อสหรัฐมีผลต่อตลาดไม่มาก ซึ่งตลาดรอติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 4/66 ซึ่งสัปดาห์หน้าจะประกาศผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์
โดยคาดว่าดัชนีจะแกว่งตัว บริเวณแนวรับ 1,400 จุดและแนวต้าน 1,420 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,483.10 ล้านบาท ปิดที่ 129.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,168.48 ล้านบาท ปิดที่ 149.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,134.62 ล้านบาท ปิดที่ 62.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
COM7 มูลค่าการซื้อขาย 1,076.75 ล้านบาท ปิดที่ 23.20 บาท ลดลง 1.40 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 946.95 ล้านบาท ปิดที่ 54.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง