BCH ได้ดีจากลูกค้าประกันสังคม

BCH เป็นผู้ประกอบการธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนที่ปัจจุบันมีผู้ป่วยประกันสังคมในระบบมากกว่า 1 ล้านราย สูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ


คุณค่าบริษัท

บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH เป็นผู้ประกอบการธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนที่ปัจจุบันมีผู้ป่วยประกันสังคมในระบบมากกว่า 1 ล้านราย สูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ จากโควตาทั้งหมด 1.85 ล้านราย ดังนั้นการที่กระทรวงแรงงานและสำนักงานประกันสังคม (สปส.) มีแนวคิดจะขยายเพดานจัดเก็บเงินเข้ากองทุนประกันสังคม จาก 15,000 บาท เป็น 20,000 บาท ขยายอายุเกษียณ จาก 55 ปี เป็น 60 ปี และเพิ่มเพดานสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำจาก 60% เป็น 75% จะส่งผลดีต่อ BCH เนื่องจากจะทำให้มีรายได้จากผู้ป่วยประกันสังคมเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ยังได้ประโยชน์จากกรณีที่สปส.ให้สิทธิผู้ประกันตนเบิกจ่ายในการตรวจสุขภาพการนอนหลับ (Sleep Test) สำหรับผู้ป่วยโรคหยุดหายใจขณะหลับ โดยสามารถเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิที่มีอยู่ได้ เช่น เบิกตรงข้าราชการ สิทธิประกันสังคม และสิทธิประกันสุขภาพ

รวมทั้งกรณีโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะเตรียมออกจากประกันสังคม ซึ่งปัจจุบันมีผู้ป่วยประกันสังคมในระบบมากกว่า 100,000 คน น่าจะส่งผลดีต่อโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น ที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งยังเหลือโควตารองรับผู้ป่วยประกันสังคมได้อีกไม่ต่ำกว่า 60,000 คน จากโควตาทั้งหมดประมาณ 260,000 คน

ส่วนกรณีกระทรวงแรงงานและกระทรวงการคลังเตรียมเสนอปรับลดเงินสมทบกองทุนประกันสังคมจากเดิม 5% เหลือ 3% น่าจะมีผลกระทบต่อ BCH จำกัด เนื่องจากการรักษาพยาบาลไม่สามารถปรับลดลงได้

ทำให้ผู้บริหารมั่นใจว่าในปี 2567 บริษัทจะมีรายได้จากการให้บริการทางการแพทย์เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก โดยทิศทางผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 คาดว่าจะเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2567 รับปัจจัยบวกจาก 1)รายได้การรักษาเหมาต่อรายหัวที่เพิ่มขึ้น และได้ผลบวกจากการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2)ผู้ป่วยต่างชาติที่ขยายตัวโดดเด่น 3)ผู้ป่วยเงินสดเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ป่วยแผนกโรคเฉพาะทางขยายตัว 4)ผลการดำเนินงานของรพ.เกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์ ดีขึ้น และ 5) การออกผลิตภัณฑ์เฮลท์แคร์อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/2567 คาดจะเติบโตสูงสุดของปี 2567 และดีต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 4/2567 เนื่องจากเป็นช่วงที่มีโรคระบาดตามฤดูกาล ทำให้ทั้งผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) เข้ามาใช้บริการหนาแน่น

บล.หยวนต้า มีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในปี 2567 ที่อยู่ในช่วงของการฟื้นตัว ภาพรวมปี 2567 คาดกำไรจะกลับมาเติบโต 30% เป็น 1,827 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหนุนจาก 1)การเติบโตของคนไข้เงินสดทั้ง IPD และ OPD ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงคนไข้ต่างชาติที่ฟื้นตัวดีกว่าปีก่อนตามการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะกลุ่มจีน และ CLMV 2)รายได้จากประกันสังคมได้รับผลบวกเต็มปีจากการปรับขึ้นค่าหัวประกันสังคมที่มีการปรับค่าหัว 10% ตั้งแต่เดือน พ.ค. 2566 3)การขยายศูนย์การแพทย์เฉพาะทางต่อเนื่อง 4)คาดประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้น

นอกจากรายได้ที่เติบโตดี ผลบวกจากการปรับโครงสร้างเงินทุนรพ.เกษมราษฏร์เวียงจันทร์ ทำให้ไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนตั้งแต่ในเดือน ก.ย. 2566 และรพ.ใหม่อีกหลายแห่งที่ผลประกอบการดีขึ้น อาทิ รพ.เกษมราษฏร์อินเตอร์เนชั่นแนล อรัญประเทศ, รพ.เกษมราษฏร์ปราจีนบุรี นอกจากนี้ยังมีดอกเบี้ยจ่ายลดลงจากการทยอยชำระคืนหนี้เงินกู้

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น BCH ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 29.15 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 17.20 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาด สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 3.32 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ปัจจุบันซื้อขาย P/BV เฉลี่ยที่ 1.24 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 23.16 บาท จากราคาต่ำสุด 20.50 บาท และราคาสูงสุด 29.25 บาท

Back to top button