SET ร่วงแรง 24 จุด หลังหุ้นกลุ่ม CP โดนเทขาย นักลงทุนจับตาผลประชุม “เฟด” พรุ่งนี้
SET ปิดร่วง 24 จุด หลังนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่ม “พีซี” แนะจับตาผลประชุม “เฟด” พรุ่งนี้ ส่วนแนวโน้มพรุ่งนี้ คาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์ ให้แนวรับ 1,390 จุด แนวต้าน 1,410 จุด
10 หุ้นกดดัชนีวันนี้
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ SET ปิดวันนี้ที่ 1,395.57 จุด ลดลง 24.15 จุด (-1.70%) มูลค่าซื้อขายราว 55,294.45 ล้านบาท
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง และหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,400 จุด โดยที่แรงกดดันหลักมาจากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะ CPALL และ CPAXT ที่มีวอลุ่มหนาแน่น ส่งผลกดดันต่อดัชนีอย่างมาก ซึ่งมาจากปัจจัยเฉพาะตัว
ขณะเดียวกันค่าเงินบาทที่อ่อนค่าตามค่าเงินภูมิภาคเอเชีย เป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายต่อเนื่อง และนักลงทุนส่วนหนึ่งเลือกขายลดความเสี่ยงก่อนการประชุม ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ใกล้เข้ามา ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีหน้า ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่ปรับตัวลงเช่นเดียวกัน
ขณะที่ แนวโน้มพรุ่งนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์รอปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน แต่หลังจากที่ดัชนีหลุด 1,400 จุดลงมาแล้ว ทำให้ภาพของตลาดดูไม่ค่อยดี และพรุ่งนี้รอติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่าจะลดหรือคงดอกเบี้ยนโยบาย โดยให้แนวรับถัดไปที่ 1,390 จุด และแนวต้าน 1,410 จุด
ส่วน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ว่าช่วงเช้า SET Index ปิดตลาดภาคเช้าร่วง 9 จุด จากแรงขายหุ้น CPAXT, CPALL, CPF, TRUE จากปัจจัยลบเฉพาะตัว นอกจากนี้ ยังมีแรงขายหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวกังวลจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรายสัปดาห์ชะลอตัว นำลงโดย AOT และ MINT
โดยกรณีของ CPAXT และ CPALL เกิดขึ้นกรณีการเข้าลงทุนในโครงการ Habitat mixed-use ของ MQDC โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างมองเป็นปัจจัยลบต่อการดำเนินงาน ผนวกกับแรงขายในกลุ่มเดียวกัน อาทิ เครื่องดื่มตามมาด้วย
ขณะที่ นางสาวชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า นักลงทุนยังคงรอติดตามผลการประชุม ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 18 ธ.ค.นี้ เกี่ยวกับมุมมองเศรษฐกิจและทิศทางดอกเบี้ยในระยะถัดไป
ส่วน นายทรงกลด วงศ์ไชย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท หลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอฟเอสเอส อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ถึงกรณีดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ดิ่งหนัก หลุด 1,400 จุด ปิดตลาดอยู่ที่ 1,395.57 จุด ลดลง 24.15 จุด หรือ -1.70% ว่า มีหลายปัจจัยผสมกัน ช่วงนี้เกิดความไม่ชัดเจนหลายเรื่อง โดยในภาคต่างประเทศธนาคารกลางสหรัฐจะปรับลดดอกเบี้ย แต่บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อายุ 10 ปี กลับปรับขึ้นจากกว่า 4.1% มาแตะ 4.4% ซึ่งสวนทาง เพราะปกติดอกเบี้ยขาลง บอนด์ยีลด์จะต้องลงเป็นสัญญาณให้กับนักลงทุน
ทั้งนี้ เฟด ไม่ได้จะลดดอกเบี้ย แค่วันที่ 18 ธ.ค.นี้ แต่ปีหน้ายังมีโอกาสลดอีก 3 ครั้ง แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากยังต้องรอ Dot Plot หรือทิศทางอัตราดอกเบี้ยในอนาคต จากเฟดอีกครั้ง หลังการประชุมครั้งนี้ ทำให้ภาพของดอกเบี้ยไม่ชัด
นายทรงกลด กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดหุ้นไทยทำ New Low มา 3 วันติดต่อกัน ถ้านักลงทุนต่างชาติยังขาย โอกาสที่จะดีดตัวขึ้นยังเป็นไปได้ยาก แต่มองเป็นการพักชั่วคราว เพราะเป็นหุ้น “บิ๊กแคป” ที่ลง นำโดย กลุ่ม CPAXT , CPALL ที่ลดลงค่อนข้างแรง ทำให้นักลงทุนมีความกังวลพอสมควร แต่ไม่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดสถานการณ์ที่เลวร้ายไปกว่านี้
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 6,981.21 ล้านบาท ปิดที่ 56.25 บาท ลดลง 2.75 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,615.76 ล้านบาท ปิดที่ 151.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
CCET มูลค่าการซื้อขาย 2,579.42 ล้านบาท ปิดที่ 10.70 บาท เพิ่มขึ้น 1.05 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,387.46 ล้านบาท ปิดที่ 23.60 บาท ลดลง 0.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,211.36 ล้านบาท ปิดที่ 279.00 บาท ลดลง 7.00 บาท