แรงขาย “หุ้นบิ๊กแคป”-กังวลการเมือง ฉุด SET ปิดร่วง 17 จุด

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยน่าผิดหวัง เพราะร่วงลงสวนทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับตัวขึ้นมาตอลรับสหรัฐเลื่อนเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก ขณะเดียวกันเยอรมันและจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหนุนเศรษฐกิจโลกเติบโต แม้เศรษฐกิจสหรัฐอาจชะลอตัวลง แต่ภาพตลาดหุ้นบ้านเราดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่

โดยกลุ่มที่ถ่วงตลาดวันนี้ คือ กลุ่มพลังงานปรับลงตามราคาน้ำมันดิบโลก และหุ้นที่ก่อนหน้านี้ปรับตัวขึ้น อาทิ กลุ่มธนาคาร เริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมา จากช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา Outperform มองว่าอาจโยกเงินไปเข้ากลุ่มที่ราคาลงไปลึกและผลประกอบการมีแนวโน้มดี หรือหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีที่คาดหวังได้รับประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน อย่างไรก็ดี แรงขายหุ้นใหญ่ยังถ่วงตลาด

ส่วนแนวโน้มระยะสั้นยังไม่ข่าวบวกอย่างชัดเจน มองภาพเดือน มี.ค. หุ้นกลาง-เล็กมีโอกาสปรับขึ้น ส่วนหุ้นใหญ่ยังเผชิญปัจจัยลบจากเศรษฐกิจโลก และทิศทาง Fund Flow อีกยังกังวลความไม่แน่นอนของกองทุน ThaiESG 2 ที่จะรับโอนเม็ดเงินจากกองทุน LTF ที่ครบกำหนดไถ่ถอน ให้แนวรับที่ 1,180-1,170 จุด เป็นแนวรับสำคัญ ส่วนแนวต้าน 1,125-1,240 จุด หากผ่านไปได้มองมีแนวโน้มอาจเป็นขาขึ้นระยะยาว

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ระบุในวันนี้ว่า แรงขายที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นผลมาจากปัจจัยภายในประเทศ โดยเฉพาะสเถียรภาพทางการเมือง ที่นักลงทุนต่างชาติมีความกังวลจากปัจจัยภายใน ทำให้วันนี้นักลงทุนต่างชาติเทขายมากถึง 4.7 พันล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 3,135.84 ล้านบาท ปิดที่  77.50 บาท เพิ่มขึ้น  2.00 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,199.95 ล้านบาท ปิดที่  51.75 บาท ลดลง   0.75 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,139.85 ล้านบาท ปิดที่ 274.00 บาท เพิ่มขึ้น  2.00 บาท

BH มูลค่าการซื้อขาย 1,620.79 ล้านบาท ปิดที่ 178.00 บาท ลดลง  12.00 บาท

PTT (XD) มูลค่าการซื้อขาย 1,572.96 ล้านบาท ปิดที่  29.75 บาท ลดลง   1.25 บาท