SET ปิดเช้าลบ 1 จุด รอความชัดเจน “ภาษีตอบโต้” คาดบ่ายแกว่งกรอบแคบ

SET ปิดเช้าลดลง 1 จุด แกว่งในกรอบจำกัดแม้สหรัฐประกาศขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% แต่ไทยรับผลกระทบไม่มาก และมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวรับ Sentiment บวก แนวโน้มบ่ายแกว่งแคบเช่นเดียวกับช่วงเช้า ให้แนวรับ 1,185, 1,180 จุด แนวต้าน 1,195, 1,200 จุด


10 หุ้นกดดัชนีเช้านี้

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,189.17 จุด ลดลง 1.19 จุด (-0.10%) มูลค่าซื้อขายราว 15,084 ล้านบาท

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวกรอบจำกัด ต่างกับภูมิภาค โดยตลาดหุ้นจีนมีปัจจัยเฉพาะตัวที่โบรกเกอร์ต่างชาติปรับเพิ่มน้ำหนัก ขณะที่เช้านี้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงนามคำสั่ง Executive Order เรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตรา 25% มีผลตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย. ส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่ม Auto และ กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งไทยมีน้อย ก็ทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับลงไม่มาก อย่างไรก็ดี ยังไม่วางใจไม่ได้ เพราะอาจมีข้อมูลเกี่ยวกับคำสั่งดังกล่าวเพิ่มขึ้น  และยังรอความชัดเจนการเก็บภาษีตอบโต้  (reciprocal tariff) กับ 15 ประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐซึ่งรวมไทยด้วย

นอกจากนี้ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า TFEX จะหมดอายุในวันพรุ่งนี้ ส่วนใหญ่เปิด long อยู่ ทำให้แรงขายอาจจะไม่มาก จึงทำให้ตลาดหุ้นไทยวิ่งกรอบแคบ อีกทั้งมีแรงซื้อกลุ่มท่องเที่ยวเล่นตามข่าวที่เก็งครม.จะอนุมัติโครงการกระตุ้นท่องเที่ยว แต่มองว่าไม่ได้ขึ้นระยะยาว และแรงซื้อกลุ่มแบงก์

โดยแนวโน้มตลาดหุ้นช่วงบ่ายคาดว่าเคลื่อนไหวแกว่งตัวในกรอบจำกัดเช่นเดียวกับช่วงเช้า โดยให้แนวรับที่ 1,185 , 1,180  จุด แนวต้านที่ 1,195, 1,200 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,085.79 ล้านบาท ปิดที่ 164.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

KTB มูลค่าการซื้อขาย 869.21 ล้านบาท ปิดที่ 24.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 837.68 ล้านบาท ปิดที่ 150.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

TTB มูลค่าการซื้อขาย 692.39 ล้านบาท ปิดที่ 1.99 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 649.98 ล้านบาท ปิดที่ 72.00 บาท ลดลง 1.50 บาท

Back to top button