ดีเจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 ก.ย.63) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยความคืบหน้าผลการสอบสวนและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรณีผู้ต้องขังชายที่อยู่ระหว่างกักกันก่อนเข้าแดนปกติในเรือนจำ ตรวจพบสารพันธุกรรมของเชื้อโควิด 19 ในวันที่ 3 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา การค้นหาผู้สัมผัสรวม 1,004 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 120 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 884 คน ส่งตรวจ 570 คน ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ โดยทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรคของกรมควบคุมโรค หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรคเพื่อค้นหาและติดตามตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ต้องขังชายที่อยู่ระหว่างกักกันก่อนเข้าแดนปกติในเรือนจำทันที เพื่อเก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อก่อโรคโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR วันที่ 10 กันยายน 2563 1.บุคคลในครอบครัว มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 6 คน (ภรรยา ลูก 2 คน น้องภรรยา พ่อตา แม่ยาย) ตรวจครั้งที่ 1 และ 2 ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ ทั้งหมดครบการกักกันและเฝ้าระวังแล้ว 2.ผู้ที่พักอาศัยในคอนโด มีผู้สัมผัส รวม 143 คน ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ 3.ศาลอาญา มีผู้สัมผัส รวม 492 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 14 คน ตรวจครั้งที่ 1 และ 2 ให้ผลเป็นลบ และมีผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 478 คน ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 146 คน ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ ทั้งหมดครบการกักกันและเฝ้าระวังแล้ว 4.โรงพยาบาลราชทัณฑ์ มีผู้สัมผัส รวม 6 คน ทั้งหมดเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ และอยู่ในสถานที่กักกันเฝ้าระวังอาการ 14 วัน จะครบในวันที่ 18 ก.ย. 63 5.ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง รวม 121 คน แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ 85 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 24 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 61 คน ส่งตรวจ 8 คน เก็บตัวอย่างตรวจครั้งที่ 1 ให้ผลเป็นลบ และแบ่งเป็นผู้ต้องขัง 36 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 35 คน ตรวจครั้งที่ 1 และ 2 ให้ผลเป็นลบ และพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเพิ่ม 1 คน ซึ่งถูกประกันตัวออกไป ขณะนี้สามารถติดตามได้แล้ว นัดเก็บตัวอย่างตรวจวันที่ 16 ก.ย. 63 6.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ มีผู้สัมผัส รวม 8 คน (ผู้ต้องขังรถคันเดียวกัน) เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมด ตรวจครั้งที่ 1 และ 2 ให้ผลเป็นลบ ทั้งหมดครบการกักกันและเฝ้าระวังแล้ว 7.ร้านอาหารพระราม 3 พบผู้สัมผัสรวม 38 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 5 คน ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ และมีผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 33 คน ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 29 คน ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ ทั้งหมดครบการกักกันและเฝ้าระวังแล้ว 8.ร้านอาหารพระราม 5 มีผู้สัมผัส รวม 60 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 25 คน ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ และเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 35 คน ทั้งหมดครบการกักกันและเฝ้าระวังแล้ว 9.ร้านอาหารที่ถนนข้าวสาร มีผู้สัมผัส รวม 15 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 2 คน ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ และเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 13 คน ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ ทั้งหมดครบการกักกันและเฝ้าระวังแล้ว 10.ถนนข้าวสาร มีผู้สัมผัสเป็นพนักงานร้านอาหารและร้านค้า รวม 112 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ 11.สถานศึกษาในจ.สมุทรปราการ มีผู้สัมผัส รวม 3 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำทั้งหมด ครบระยะเวลาการเฝ้าระวังแล้ว 12.ห้างสรรพสินค้าย่านสุขสวัสดิ์ พบว่า จากกล้องวงจรปิด ไม่พบทะเบียนรถของผู้ป่วยในสถานที่และเวลาดังกล่าว สรุปผลการค้นหาผู้สัมผัสรวม 1,004 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 120 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 884 คน ส่งตรวจ 570 คน ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงดำเนินการตามขั้นตอนการสอบสวนและมาตรการป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุขอย่างต่อเนื่องจนครบกระบวนการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนชาวไทย สำหรับสถานศึกษา ถึงแม้ผู้ปกครองที่ติดเชื้อไปส่งเด็ก แต่ไม่ได้เข้าไปพื้นที่ด้านในโรงเรียน คนในโรงเรียนจึงไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง และโอกาสได้รับเชื้อต่ำมาก เนื่องจากไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ปกครองที่ติดเชื้อโดยตรง และสวมหน้ากากขณะที่ไปส่งเด็กนักเรียน ดังนั้น จึงมีครูกับผู้ที่ทำการคัดกรองหน้าโรงเรียนเพียง 3 คนเท่านั้นที่จัดอยู่กลุ่มเสี่ยงต่ำ อีกทั้งผู้ปกครองไปโรงเรียนครั้งสุดท้ายวันที่ 25 สิงหาคม 63 ซึ่งเกิน 2 สัปดาห์มาแล้ว และจากการคัดกรองของโรงเรียนก็ไม่พบว่ามีครูหรือนักเรียนป่วย อย่างไรก็ตาม มาตรการป้องกันส่วนบุคคลก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับประชาชนทุกคน ได้แก่ “สวมหน้ากาก ล้างมือ แยกของใช้ เว้นระยะห่าง ลดแออัด” ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422