ภาพยนตร์ไทย

บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR รายงานผลประกอบการปี 66 สิ้นสุด ธ.ค.66 ดังนี้ สำหรับ MAJOR รายงานผลประกอบการปี 66 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,041.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 313.18% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 252.15 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้จากการขายและบริการ 8,551 ลานบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกนของปีก่อนซึ่งบริษัทมีรายได้ 6,388 ลานบาท เพิ่มขึ้น 2,163 ล้านบาท คิดเป็นรอยละ 34 สาเหตุหลักมาจากกระแสความนิยมในภาพยนตร์ไทยเพิ่มมากขึ้น โดยมีภาพยนตร์ไทยที่ทำรายได้สูงสุดในปี 2566 นี้ ได้แก่ ภาพยนตร์เรื่องสัปเหร่อ ธี่หยด และ 4 King 2 ประกอบกับบริษัทได้มีการขยายสาขาในต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในปี 2566 บริษัทมีผู้มาใช้บริการในโรงภาพยนตร์ทั้งสิ้นสูงกว่าปี 2565 ถึงรอยละ 55 นอกจากนี้ในส่วนของการจัดกิจกรรมงานเลี้ยงสังสรรค์ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ส่งผลให้ธุรกิจให้บริการโบว์ลิ่งและคาราโอเกะมีรายได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งมีกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 220 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 2/2566 บริษัทรับรู้กำไรจากการขายเงินลงทุนใน บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) โดยเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ซาเล็คต้า จำกัด (มหาชน) หรือ ZAA จำนวน 346 ล้านบาท นอกจากนี้ คณะกรรมการที่ประชุมของบริษัท เตรียมจ่ายเงินปันผลงวดดำเนินงานวันที่ 01 ม.ค. 2566 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2566 เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 9 เม.ย.67 และกำหนดจ่ายวันที่ 30 เม.ย.67

ภาพยนตร์ไทย

MAJOR รายได้หนังพุ่ง-บุ๊กพิเศษขาย MPIC ดันกำไรโต 3 เท่าตัว พ่วงปันผล 0.15 บาท

บริษัท บูรพาทัศน์ (1999) จำกัด