กฎหมายการพนันฉบับใหม่

บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จํากัด มหาชน หรือ KKPS ระบุในบทวิเคราะห์ โดยอ้างอิงรายงานจาก “บางกอกโพสต์” เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 67 ระบุว่า รัฐบาลกำลังวางแผนเร่งออกกฎหมายฉบับใหม่เกี่ยวกับการพนันในประเทศ โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ระบุว่าคณะกรรมการได้ศึกษาเกี่ยวกับหัวข้อดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้วและพร้อมส่งต่อให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไปในเดือนเมษายน โดยคาดการณ์ว่าจะเริ่มสร้างกาสิโนแห่งแรกของไทยภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ แม้พรบ.การพนัน พ.ศ. 2478 จะประกอบไปด้วยข้อห้ามเกี่ยวกับการพนันในประเทศไทย แต่ก็ยังเปิดช่องให้รัฐบาลสามารถออกใบอนุญาตสำหรับการพนันบางอย่างในพื้นที่ที่กำหนดได้ ผ่านการออกพระราชกฤษฎีกาเพื่อส่งต่อให้รัฐพิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตามกฎหมายดังกล่าวก็ค่อนข้างล้าสมัย โดยรัฐบาลมีแนวโน้มที่จะออกกฎหมายการพนันฉบับใหม่ (พรบ. การเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร) ซึ่งครอบคลุมถึงประเด็นเกี่ยวกับ ใบอนุญาต, คุณสมบัติของผู้ให้บริการ, ข้อกำหนดเกี่ยวกับการเข้ากาสิโน, ภาษี, รวมถึงการป้องกันความเสี่ยงทางสังคม การออกกฎหมายเกี่ยวกับกาสิโนได้รับการส่งเสริมจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งจากฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน โดยจะทำให้กระบวนการทางกฎหมายดำเนินการได้รวดเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญของไทยก็กำหนดให้มีการประเมินผลกระทบอย่างถี่ถ้วน และให้มีการประชาพิจารณ์ก่อนจะมีการผ่านกฎหมายใดที่จะส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งกระบวนการดังกล่าวอาจยืดเยื้อการออกกฎหมายกาสิโน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพนันออนไลน์ ออกไป เนื่องจากได้รับการต่อต้านจากกลุ่มนักกิจกรรมทางสังคมบางส่วน ทั้งนี้ หลังจากมีการผ่านกฎหมายดังกล่าวแล้ว (KKPS มองว่าใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี) กระบวนการประมูลสำหรับงานการก่อสร้างอาจใช้เวลาเพิ่มเติมอีก 2 ปี ซึ่ง KKPS มองว่ารายงานข่าวเกี่ยวกับการคาดการณ์ว่าจะมีการสร้างกาสิโนในไทยภายในสิ้นปีนี้ค่อนข้างเป็นมุมมองที่ดีเกินจริง โดยกระบวนการก่อสร้างอาจใช้เวลา 3-4 ปี ซึ่งโดยรวมแล้วจะใช้เวลากว่า 6-7 ปี กว่ากาสิโนแห่งแรกของไทยจะสามารถเปิดให้บริการได้ ด้านผลการศึกษาจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (FPO) ระบุว่าสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) จะช่วยเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศถึง 50% ขณะที่จำนวนของนักท่องเที่ยวก็จะเพิ่มขึ้นสูงสุด 20%โดยสร้างผลบวกให้ GDP +1.16% ขณะที่ KKPS มองว่าการคาดการณ์ดังกล่าวค่อนข้างเกินจริง เนื่องจากนักท่องเที่ยวทุกคนไม่ได้ให้ความสนใจด้านการพนัน รวมถึงการเปิดกาสิโนในประเทศไทยอาจไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ