กระทรวงพาณิชย์ของไทย

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ (26 ก.ย.66) กระทรวงพาณิชย์ ของไทย เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือน ในเดือนส.ค. เนื่องจากมีการจัดส่งผลิตภัณฑ์เกษตรและอุตสาหกรรมมากขึ้น ท่ามกลางค่าเงินบาทที่อ่อนตัว กระทรวงฯ กล่าวในแถลงการณ์ว่า การส่งออกซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย เพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเดือนส.ค. เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 2.42 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.85 แสนล้านบาท) โดยมีปัจจัยจากแนวโน้มการพัฒนาของภาคการผลิตทั่วโลกเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า แม้จะยังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ พร้อมเสริมว่าค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงในระดับที่เหมาะสมมีส่วนส่งเสริมการเติบโตเช่นกัน ขณะที่ การส่งออกผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของไทยเพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนส.ค. เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ผลิตภัณฑ์เกษตรเพิ่มขึ้น 4.2% เมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นจากการลดลง 7.7% ในเดือนก.ค. อย่างไรก็ดี การจัดส่งสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเมื่อเดือนส.ค. หดตัว 7.6% เมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่งลดลงจาก 11.8% ในเดือนก.ค. และนับเป็นการลดลงเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ส่วนการนำเข้าของไทยลดลง 12.8% จากปีก่อน อยู่ที่ 2.39 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.72 แสนล้านบาท) ในเดือนส.ค. ส่งผลให้การค้าเกินดุล 359 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.3 หมื่นล้านบาท) กระทรวงฯ เผยว่าการส่งออกของไทย ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 66 (ม.ค.-ส.ค.) ลดลง 4.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การนำเข้าลดลง 5.7% ส่งผลให้การค้าขาดดุล 7.92 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.88 แสนล้านบาท) นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงฯ แถลงว่า “กระทรวงฯ คาดว่าการส่งออกจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้ โดยเฉพาะระหว่างเดือนต.ค.-ธ.ค. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น”