กฤษณะพงศ์ พงศ์แสนยากร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ นายกฤษณะพงศ์ พงศ์แสนยากร นายกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อร่วมกันพัฒนาศักยภาพของบุคลากร ทั้งในสมาชิกสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชน และประโยชน์ต่อสถาบันการศึกษา งานด้านวิชาการจากทางมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย การถ่ายทอดเทคโนโลยีประสบการณ์จากทางสมาคมสื่อเศรษฐกิจ พัฒนาภาพลักษณ์และการสื่อสารองค์กรทั้งภายในและภายนอก มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเป็นระยะเวลา 3 ปี นับจากปี 2566 นายกฤษณะพงศ์ กล่าวว่า สำหรับความร่วมมือแรกที่จะดำเนินการร่วมกัน คือการจัดสัมมนาดีเบตใหญ่ “โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง 66 เจาะลึกนโยบายเศรษฐกิจ 9 พรรคการเมือง” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันพุธที่ 3 พฤษภาคม 2566 เวลา 08:30-12:00 น. ณ อาคาร 23 ชั้น 7 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ถนนวิภาวดีรังสิต ทั้งนี้พรรคการเมืองต่างๆ จะส่งผู้เข้าร่วมดีเบตในระดับหัวหน้าพรรคฯ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ และผู้ร่วมผลักดันนโยบายเศรษฐกิจของพรรค เช่น นายศุภวุฒิ สายเชื้อ ตัวแทนพรรคเพื่อไทย, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ,นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย,นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า , หม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร จากพรรครวมไทยสร้างชาติ, นายอุตตม สาวนายน จากพรรคพลังประชารัฐ, นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล จากพรรคก้าวไกล ,นายชาติชาย พยุหนาวีชัย จากพรรคชาติไทยพัฒนา และนายสุพันธุ์ มงคลสุธี จากพรรคไทยสร้างไทย นอกจากนี้ภายในงาน จะมีการเปิดผลสำรวจความเห็นประชาชนจากศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยในประเด็นนโยบายเศรษฐกิจพรรคการเมืองที่ประชาชนอยากเห็น และนโยบายเศรษฐกิจพรรคการเมืองที่แต่ละพรรคจะทำทันที หากได้เป็นรัฐบาล นายกฤษณะพงศ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยหอการค้าไทยกับสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจมีความสัมพันธ์อันดีมาต่อเนื่องทั้งการเอื้อเฟื้อสถานที่ และสนับสนุนข้อมูลวิชาการในโครงการต่างๆ แก่สมาคมฯ และพิเศษในปีนี้ คือการร่วมกันจัดงานดีเบตดังกล่าว ซึ่งกิจกรรมตามวาระสำคัญของประเทศที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 โดยที่ผ่านมาหลายหน่วยงานสื่อมวลชนแขนงต่างๆ อาจมีเวทีดีเบตหลายครั้ง แต่การจัดงานดีเบตครั้งนี้จะเจาะลึกไปถึงนโยบายเศรษฐกิจของพรรคการเมือง อันเนื่องจากปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ถือเป็นปัญหาใหญ่ จึงมั่นใจว่าการดีเบตจะมีข้อมูลอันเป็นประโยชน์เผยแพร่ไปสู่ประชาชนผู้รับข่าวสาร และผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง