กลด์แมน แซคส์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 ม.ค.66) ณ เวลา 10:11 น. ราคาหุ้น ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL อยู่ที่ระดับ 150 บาท ลดลง 4.50 บาท หรือ 2.91% สูงสุดที่ระดับ 154 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 149.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 972.78 ล้านบาท ด้าน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK อยู่ที่ระดับ 129.50 บาท ลบ 3 บาท หรือ 2.26% สูงสุดที่ระดับ 132 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 129 ล้านบาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 752.87 ล้านบาท ส่วน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB อยู่ที่ระดับ 18.40 บาท ลบ 0.30 บาท หรือ 1.60% สูงสุดที่ระดับ 18.70 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 18.40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 321.71 ล้านบาท ขณะที่ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB อยู่ที่ระดับ 104.50 บาท ลบ 1.50 บาท หรือ 1.42% สูงสุดที่ระดับ 105.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 104.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 291.78 ล้านบาท ด้านธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB อยู่ที่ระดับ 1.63 บาท ลบ 0.03 บาท หรือ 1.81% สูงสุดที่ระดับ 1.66 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.62 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 161.29 ล้านบาท โดยราคาหุ้นธนาคารพาณิชย์ปรับตัวลดลงเช้านี้ หลังมีการรายงานว่า "โกลด์แมน แซคส์" ปรับลดคำแนะนำกลุ่มแบงก์ไทยลง โดยระบุในบทวิเคราะห์ว่า แบงก์ไทยนั้นมีความน่าสนใจน้อยที่สุดในภูมิภาค เนื่องจากมีแนวโน้มการเติบโตของ book value ที่ต่ำ เฉลี่ยอยู่ที่ 8.4% สำหรับปี 66-69 นอกจากนั้นยังมองว่าปัญหาคุณภาพสินทรัพย์ยังเป็นปัจจัยที่สร้างความกังวลในระยะสั้น โดยเฉพาะในกลุ่ม SME เนื่องจากบริษัทในกลุ่มนี้ยังเห็นการฟื้นตัวที่ต่ำหลังจากช่วงโควิด และยังมีกลุ่มผู้บริโภคที่กดดันจากตัวเลขหนี้ครัวเรืองสูง แม้ความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (Credit Cost) จะอ่อนลงก็ตามแต่ยังอยู่ในระดับที่สูง ประเทศไทยเป็นเพียงประเทศเดียวในอาเซียนที่ GS มองว่า ROA ของกลุ่มแบงก์ในปี 69 จะยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด สำหรับ BBL ปรับคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ขาย” พ่วงราคาเป้าหมายจาก 190 บาท เหลือ 164 บาท, SCB คงคำแนะนำ “ขาย” ปรับราคาเป้าหมายลงจาก 106 บาท เหลือ 101 บาท, KBANK คงคำแนะนำ “ขาย” ปรับราคาเป้าหมายจาก 132 บาท เหลือ 128 บาท, KTB คงคำแนะนำ “ถือ” ปรับราคาเป้าหมายลงจาก 21.80 บาท เหลือ 20.80 บาท, TTB คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเป้าหมายลงจาก 1.99 บาท เหลือ 1.94 บาท