กลุ่มผู้ผลิตอาหารและเกษตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นกลุ่มผู้ผลิตอาหารและเกษตรปรับตัวลงแรง นำโดยเฉพาะ CPF, GFPT, TU และ TFG เนื่องจากสถานการณ์รัสเซียและยูเครนรุนแรงขึ้นส่งผลให้ต้นทุนอาหารสัตว์ปรับสูงขึ้น โดยบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ณ เวลา 11:20 น. อยู่ที่ระดับ 24.50 บาท ลบ 0.30 บาท หรือ 1.21% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 397.12 ล้านบาท ส่วน บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT ณ เวลา 11:22 น. อยู่ที่ระดับ 13.30 บาท ลบ 0.10 บาท หรือ 0.75% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.50 ล้านบาท ด้าน บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ณ เวลา 11:24 น. อยู่ที่ระดับ 19.80 บาท ลบ 0.10 บาท หรือ 0.50% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 94.45 ล้านบาท บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG ณ เวลา 11:24 น. อยู่ที่ระดับ 4.24 บาท ลบ 0.04 บาท หรือ 0.93% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 5.77 ล้านบาท โดยบล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(4 มี.ค.65)ว่า กลุ่มที่ได้รับผลกระทบในเชิงลบจากเหตุการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ประกอบด้วย CPF GFPT TFG เนื่องจากราคาต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงขึ้นมาก และ TU มีธุรกิจอยู่ในรัสเซีย รวมทั้ง RBF ราคาข้าวสาลีพุ่งกระทบต้นทุน ด้านนายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า กลุ่มหุ้นผู้ผลิตอาหารได้รับผลกระทบเชิงลบจากสถานการณ์รัสเซียและยูเครนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยรัสเซียและยูเครนเป็นแหล่งสำคัญในการผลิตข้าวสาลี ข้าวบาเล่ย์ ข้าวโพด ของโลก เมื่อมีเหตุการณ์ความไม่สงบก็จะทำให้ซัพพลายในตลาดโลกลดลง ส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนอาหารสัตว์เพิ่มขึ้นไปด้วย อย่างไรก็ดี มองว่าเป็นผลกระทบระยะสั้น โดยขึ้นกับสถานการณ์ขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนจะเป็นอย่างไร หากลดความร้อนแรงราคาก็อาจค่อย ๆ ปรับลง แนะนำให้รอดูสถานการณ์ก่อน หันไปลงทุนหุ้นกลุ่ม Domestic play เช่น กลุ่มค้าปลีก กลุ่มท่องเที่ยว