กลุ่มสิงเทล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากประชุมกลุ่มนักวิเคราะห์ร่วมกับผู้บริหารบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC วันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากบริษัทได้ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 4/2565 และประจำปี 2565 ออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ ล่าสุดนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) มีมุมมองเชิงบวกประชุมนักวิเคราะห์ที่ผ่านมา โดยผู้บริหารคาดแนวโน้มการแข่งขันลดลง โดย AIS ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 3-5% (ไม่รวมดีลซื้อบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ 3BB) และ EBITDA จะเติบโตระดับกลาง เน้นการสร้างการเติบโตรายได้ที่มีคุณภาพ เช่น กลุ่มมือถือเน้น 5G และการถอนโปรฯ ที่ไม่สร้างกำไรออก ควบคู่กับกลยุทธ์การออกแพ็กแกจร่วมกัน (FMC) ระหว่างมือถือและบรอดแบนด์ โดยบริษัทตั้งงบลงทุนปี 2566 ไว้ที่ 27,000-30,000 ล้านบาท (ไม่รวมดีลซื้อ 3BB) สำหรับการแข่งขันราคาธุรกิจมือถือเริ่มแผ่วลง หลังไตรมาสที่ผ่านมา ADVANC ทยอยถอนโปรโมชั่นราคาถูก (ไม่สร้างกำไร) ออกจากตลาด และปลายไตรมาสคู่แข่งขันเริ่มขยับราคาแพ็กเกจขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตามบริษัทยังไม่มีแนวคิดปรับนโยบายจ่ายเงินปันผลจากปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 70% ของกำไรสุทธิทั้งปี หลังปีที่ผ่านมาจ่ายปันผลคิดเป็น Payout กว่า 88% ขึ้นจากปี 2564 ที่จ่าย 85% ส่วนความคืบหน้าโครงการต่าง ๆ ดีลซื้อกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF และ 3BB อาจล่าช้ากว่าแผนเดิมเล็กน้อย คาดเสร็จในไตรมาส 2/2566 จากเดิมไตรมาส 1/2566 และดีลการร่วมบริหารคลื่น 700 MHz ของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภาพัฒน์ คาดชัดเจนมากขึ้นในเดือนหน้าก่อนที่ให้ครม.อนุมัติต่อไป ขณะที่ ดีลร่วมสร้าง Data center กับกลุ่มสิงเทล และบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ปัจจุบันหาพื้นที่ได้แล้ว คาดเฟสแรกสร้างศูนย์ data center ขนาด 20 เมกะวัตต์ก่อน คาดให้บริการเชิงพาณิชย์ในปี 2568 สำหรับแนวคิดขายสินทรัพย์จัดตั้งกองทุน AISIF เบื้องต้นผู้บริหารมองเป็นหนึ่งทางเลือกในการระดมทุน และที่ผ่านมามีการพิจารณาถึงแนวคิดดังกล่าว แต่ยังไม่มีข้อสรุป เพราะต้องคำนึงถึงผลดีและผลเสียประกอบด้วย ทั้งนี้จากแนวโน้มการแข่งขันด้านราคาที่ลดลง ดังนั้นจึงยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 252 บาท เลือกเป็น Top pick ด้านบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุ AIS ให้เป้าผลการดำเนินงานปี 2566 ได้แก่ รายได้บริการหลักเพิ่มขึ้น 3-5% และ EBITDA เพิ่มขึ้น 4-6% โดยบัวหลวงมองว่าอัตราการเติบโตของรายได้บริการหลักที่ 3-5% ในปี 2566 จะได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยจากกลุ่มท่องเที่ยว ผลประโยชน์จากการเปิดประเทศจีน และอัตราเงินเฟ้อที่ลดต่ำลง ขณะที่ EBITDA ที่เติบโต 4-6% จะสะท้อนการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าที่แตกต่างออกไป ไม่เหมือนเดิม หรือ "Cognitive Tech-Co” จะผลักดันให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลงผ่านการใช้ระบบโครงข่ายอัจฉริยะ รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการและระบบไอที นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้งบลงทุน โดยจะทำการลดทราฟฟิกการใช้งานที่สร้างมูลค่าในระดับต่ำ และย้ายทราฟฟิกการใช้งานดังกล่าวไปยังโครงข่าย 5G รายได้ธุรกิจบรอดแบนด์บ้านมีแนวโน้มเติบโตระดับตัวเลขสองหลักสำหรับในปี 2566 โดยเป้าหมายจำนวนผู้ใช้บริการบรอดแบนด์บ้าน ณ สิ้นปี 2566 อยู่ที่ 2.5 ล้านราย โดยประมาณการกําไรหลักไตรมาส 1/2566 ที่ 6.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อน ทั้งนี้ บัวหลวงได้ปรับประมาณกำไรสุทธิปี 2566 เพิ่มขึ้นอีก 5% เป็น 2.64 หมื่นล้านบาท เพื่อสะท้อนประมาณการรายได้บริการหลักที่เพิ่มขึ้นอีก 1.5% จากประมาณการเดิมที่ 1.38 แสนล้านบาท พร้อมทั้งปรับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 257 บาท โดยมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 4% นายพิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผู้บริหารของ AIS คาดแนวโน้มการแข่งขันในปี 2566 จะค่อย ๆ ลดลง โดยรายได้จะเติบโตประมาณ 3-5% ขณะที่ EBITDA จะเติบโตประมาณ 4-6% ส่วนการแข่งขันเน็ตบ้านจะลดลงเรื่อย ๆ หลังจาก AIS ควบรวมกิจการของ 3BB ภายในไตรมาสที่ 2/2566 นี้ ซึ่งปัจจุบัน AIS ได้ปรับขึ้นค่าบริการเป็น 399 บาทต่อเดือน จากเดิม 299 บาทต่อเดือน ขณะที่ บริการมือถือ AIS เริ่มถอนแพ็กเกจราคาถูกออก ทำให้การแข่งขันระหว่างค่ายมือถือลดลง ทำให้มีมาร์จิ้นของแต่ละบริษัทดีขึ้น โดยบล.กสิกรไทย ประเมินกำไรของ ADVANC จะเติบโต 7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สำหรับการตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ขณะนี้ยังต้องรอให้การควบรวมกิจการกับ 3BB เสร็จสิ้นก่อน ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นภายในไตรมาสที่ 2/2566 นี้ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC กำไรปกติไตรมาส 4/2565 ตามคาด และปัจจัยบวกเริ่มชัด หนุน sentiment ดีขึ้น จึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 230.00 บาท/หุ้น จากเดิม 210.00 บาท/หุ้น จากการปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2566 และกลับมาให้น้ำหนักกับปัจจัยบวกเพิ่มขึ้น (การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากการกลับมาของนักท่องเที่ยว, แนวโน้มค่าไฟฟ้าที่ peak out ในครึ่งปีแรกของปี 2566, การปิดดีล 3BB และ JASIF และ TRUE และ DTAC ทำให้การแข่งขันระยะยาวลดลง รวมถึงโอกาสการขายสินทรัพย์โครงข่ายเพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ หากดีล 3BB และ JASIF สำเร็จ ก็จะประเมินเป็น upside ขณะที่ระยะยาวการใช้งาน Data ที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อน โดยราคาหุ้นจะกลับมา outperform SET ได้ระยะถัดไป จากปัจจัยบวกที่กล่าวถึงข้างต้น ซึ่งจะทยอยเห็นพัฒนาการตั้งแต่ปลายไตรมาส 1/2566 เป็นต้นไป นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ADVANC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท วันที่ 9 ก.พ. 2566 มีมติให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจําปี 2566 วันที่ 27 มีนาคม 2566 เวลา 14.00 น. ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว โดยให้พิจารณาวาระสำคัญ คือ พิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้ในวงเงินไม่เกิน 100,000 ล้านบาท และการพิจารณาอนุมัติจัดสรรกําไรสุทธิประจําปี 2565 เป็นเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น อัตรา 7.69 บาทต่อหุ้น โดยได้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลวันที่ 6 ก.ย. 2565 อัตรา 3.45 บาทต่อหุ้น คงเหลือจ่ายปันผลสําหรับงวดนี้ 4.24 บาทต่อหุ้น