กลุ่มสินเชื่อรถบรรทุก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 ก.พ.68) กลุ่มสินเชื่อรถบรรทุกในตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยบริษัท ไมโครลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MICRO ปรับตัวลงมากที่สุด โดยลดลง 48% ตามมาด้วย บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ASK ที่ลดลง 44% และ บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI ลดลงน้อยที่สุดโดยปรับตัวลง 34% สอดคล้องกับคุณภาพสินทรัพย์ เนื่องจาก THANI มีคุณภาพสินทรัพย์ดีที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน แม้ว่าจะยังคงอ่อนแออยู่ก็ตาม ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดอุปสงค์รถบรรทุกจะกลับตัวเป็นบวกในปี 2568 โดยมองว่ามีหลายปัจจัยที่จะช่วยยืนยันว่าอุปสงค์รถบรรทุกจะกลับมา ประการแรก คาดว่ากิจกรรมก่อสร้างจะเพิ่มขึ้นในปี 2568-2570 จากการเริ่มก่อสร้างโครงการต่าง ๆ มูลค่ารวม 1.29 แสนล้านบาท ที่เซ็นสัญญาไปในปี 2567 รวมทั้งโครงการที่เซ็นสัญญาในปี 2564 มูลค่ารวม 2.10 แสนล้านบาท ซึ่งจะเข้าสู่เฟสเร่งก่อสร้างเช่นกัน ประการที่สอง คาดว่าการผลิตของภาคเกษตรจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับในปี 2566-2567 ที่ได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญ ประการสุดท้าย แม้การนำเข้าและส่งออกจะชะลอตัวลงในปี 2568 แต่ทั้งนี้เชื่อว่าอุปสงค์รถบรรทุกสำหรับนำเข้าและส่งออกจะยังได้ประโยชน์จากปริมาณที่เติบโตขึ้น อีกทั้งคาดว่า ราคารถบรรทุกมือสองจะแตะระดับต่ำสุดในไตรมาส 1/2568 แต่จะทรงตัวหลังจากนั้น จากอุปสงค์รถบรรทุกที่ดีขึ้นในไตรมาส 2/2568 อย่างไรก็ดี ยังเชื่อว่าราคารถบรรทุกมือสองจะไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากยังมีจำนวนรถบรรทุกถูกยึดจำนวนมากเหลืออยู่ในสินค้าคงคลัง โดยเฉพาะ ASK ดังนั้น จึงคาดว่าราคารถบรรทุกจะทรงตัวจนกว่าผู้ประกอบการจะขายรถบรรทุกที่ยึดมาที่ค้างอยู่ในสินค้าคงคลังออกไปได้ ประกอบกับคาดการณ์ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2567-1/2568 อ่อนแอ ซึ่งคาดว่ากำไรของกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกจะดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/2568 เป็นต้นไป อย่างไรก็ดี คาดว่าอุปสงค์รถบรรทุกที่อ่อนแอ และราคารถบรรทุกมือสองที่ลดลงมากจะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของ ASK, THANI และ MICRO ในไตรมาส 4/2567 และไตรมาส 1/2568 ทั้งนี้ปรับประมาณการกำไร โดยรวมคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอ แนวโน้มตลาดและการวางตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ของแต่ละบริษัทในประมาณการกำไร โดยจะลดประมาณการกำไรของ ASK ในปี 2567 ลง 35%, ปี 68 ลง 83% และปี 69 ลง 53% ขณะที่ปรับประมาณการกำไรของ THANI ในปี 2567 ลง 38%, ปี 68 ลง 34% และปี 69 ลง 29% แต่ปรับเพิ่มผลขาดทุนปกติปี 2567 ของ MICRO ขึ้นเป็น 165 ลบ. จาก 48 ลบ. และลดประมาณการกำไรปกติปี 2567 ลง 10% และปี 2568 ลง 52% ขณะที่ฝ่ายวิเคราะห์เพิ่มมุมมองต่อกลุ่มสินเชื่อรถบรรทุกเป็น “กลาง” จาก “ลบ” เนื่องจากราคาหุ้นในกลุ่มที่ลดลงมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมาซึ่งทำให้มูลค่าหุ้นน่าดึงดูดใจ นอกจากนี้คาดว่าแนวโน้มตลาดจะแตะระดับต่ำสุดและเริ่มเป็นบวกในปี 2568 อีกทั้งให้คำแนะนำ THANI เป็น “ซื้อ” จาก “ถือ” แต่ลดราคาเป้าหมายลง 20% เป็น 1.36 บาท และคงคำแนะนำ ASK เป็น “ถือ” จาก “ขาย” แต่ลดราคาเป้าหมายลง 21% เป็น 6.8 บาท และคงคำแนะนำ “ขาย” MICRO แต่ลดราคาเป้าหมายลง 19% เป็น 0.75 บาท อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิเคราะห์เลือกแค่ THANI เป็นหุ้นเด่น จากการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีและมีศักยภาพที่จะรองรับการเติบโตในปี 2568-2569 หากตลาดเอื้อประโยชน์มากขึ้น ทั้งนี้ถึงเวลาซื้อกลับ หุ้นในกลุ่มส่วนใหญ่ซื้อขายที่ -2SD ของ P/BV ซึ่งบ่งชี้ว่ามี downside risks จำกัด ราคาหุ้น ASK,THANI และ MICRO ขณะนี้ซื้อขายด้วย P/BV ปี 2568 ที่ 0.4 เท่า/0.5 เท่า/0.5 เท่า ซึ่งเท่ากับ 1.7SD/2.3SD/1.5SD ต่ำกว่า /BV